โมเดอร์นา อิงค์ ระบุในวันจันทร์ (20 ธ.ค.) วัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นของพวกเขาดูเหมือนมีประสิทธิภาพป้องกันตัวกลายพันธุ์โอมิครอนของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่แพร่เชื้อได้ง่ายมากๆ ในการทดลองในห้องปฏิบัติการ และเชื่อว่าวัคซีนเวอร์ชันปัจจุบันจะยังคงเป็นแนวหน้าในการต่อสู้กับโอมิครอน
ถ้อยแถลงของโมเดอร์นาระบุว่า การตัดสินใจของที่มุ่งเน้นไปที่วัคซีนเวอร์ชันปัจจุบัน mRNA-1273 ขึ้นอยู่กับแนวโน้มความรวดเร็วในการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งถูกพบเมื่อเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม โมเดอร์นา ยังคงมีแผนพัฒนาวัคซีนสำหรับป้องกันโอมิครอนโดยเฉพาะ และหวังว่าจะเริ่มการทดลองทางคลินิกในปีหน้า
"สิ่งที่เรามีในตอนนี้คือ 1273" นายแพทย์พอล เบอร์ตัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่แทพย์ของโมเดอร์นาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน "มันมีประสิทธิภาพสูง และมีความปลอดภัยมาก ผมคิดว่ามันจะปกป้องผู้คนให้ผ่านพ้นช่วงวันหยุดที่กำลังมาถึงและผ่านพ้นช่วงเวลาหลายเดือนของฤดูหนาว ครั้งที่เรากำลังเห็นแรงกดดันรุนแรงที่สุดจากตัวกลายพันธุ์โอมิครอน"
ทางโมเดอร์นาระบุว่า วัคซีน 2 เข็มของพวกเขาก่อแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์เชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอนในระดับต่ำ แต่เข็มกระตุ้น 50 ไมโครกรัม เพิ่มแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์เชื้อตัวกลายพันธุ์นี้ 37 เท่า ขณะที่เข็มกระตุ้น 100 ไมโครกรัม ปริมาณเท่ากับเข็มดั้งเดิม ช่วยก่อแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์มากกว่าระดับก่อนฉีดเข็มกระตุ้นถึง 80 เท่า
สตีเฟน โฮก ประธานโมเดอร์นา กล่าวระหว่างแถลงข่าวทางไกลว่า ปัจจุบันทางบริษัทยังไม่มีแผนขออนุมัติฉีดเข็มกระตุ้นในบริมาณที่เพิ่มขึ้น "ระดับแอนติบอดีที่เกิดจากวัคซีนปริมาณต่ำ ยังคงอยู่เหนือกว่าแบบสบายๆ ต่อความเสี่ยงเคสฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อ (breakthrough infections) ตัวกลายพันธุ์ที่น่ากังวลอื่นๆ"
โมเดอร์นา ไม่พูดอย่างเจาะจงว่าวัคซีน 2 เข็มของพวกเขาจะสามารถช่วยลดเคสผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอนอาการหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตหรือไม่ แต่ผลการศึกษาจากบรรดานักวิจัยอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ยังคงพบการตอบสนองของทีเซลล์ที่แข็งแกร่งพอสมควรในการเผชิญหน้ากับตัวโอมิครอน ซึ่งในเรื่องนี้ โฮก ระบุมันอาจบ่งชี้ว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนอาการรุนแรงได้
ข้อมูลใหม่นี้ซึ่งยังไม่ผ่านการตรวจสอบทบทวนโดยผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นการทดสอบเลือดจากคนที่เคยรับวัคซีนของโมเดอร์นากับ Pseudovirus ซึ่งเป็นไวรัสที่ถูกสร้างขึ้นให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับไวรัสตัวกลายพันธุ์โอไมครอน
โฮก ระบุว่า สำหรับหลายคนไม่มีความจำเป็นต้องดันระดับแอนติบอดีให้สูงกว่าระดับที่เกิดจากการฉีดเข็มกระตุ้น 50 ไมโครกรัม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลประเทศต่างๆ สามารถเลือกใช้วัคซีนในปริมาณที่สูงกว่านี้ หากพวกเขาต้องการเพิ่มระดับการป้องกัน
ทางบริษัทระบุว่า วัคซีนประมาณ 100 ไมโครกรัมมีความปลอดภัยโดยทั่วไปและอยู่ได้นาน แต่มันก็มีแนวโน้มก่ออาการไม่พึงประสงค์มากกว่าเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคม คณะผูู้ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐฯ อนุมัติฉีดวัคซีนโมเดอร์เข็มกระตุ้นในปริมาณ 50 ไมโครกรัม
วัคซีนของทั้งโมเดอร์นาและไฟเซอร์/ไบออนเทค ถูกเชื่อมโยงกับเคสกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่เกิดขึ้นน้อยมากหลายเคส โดยเฉพาะคนหนุ่ม และหลายผลการศึกษาบ่งชี้ว่าวัคซีนของโมเดอร์นา มีความเป็นไปได้ที่จะก่ออาการกล้ามเนื้อหัวใจอีกเสบมากกว่าวัคซีนของไฟเซอร์
(ที่มา : รอยเตอร์)