สหรัฐฯ และรัสเซียยังไม่มีทีท่าว่าจะลดความเห็นต่างในประเด็นยูเครน ภายหลังการหารือที่นครเจนีวาเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) โดยมอสโกยืนยัน “ไม่มีแผนบุกยูเครน” ขณะเดียวกัน ยืนกรานข้อเรียกร้องให้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) หยุดขยายอิทธิพลไปทางตะวันออก ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ บอกว่า “ไม่สามารถรับได้”
หลังพูดคุยกันนานกว่า 7 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียต่างเห็นพ้องว่าจะเจรจากันต่อไป แม้ยังไม่เห็นสัญญาณ “พบกันครึ่งทาง” ก็ตาม
การหารือระหว่าง 2 มหาอำนาจมีขึ้นท่ามกลางความกังวลว่ารัสเซียอาจส่งทหารบุกยูเครนในไม่ช้า โดยทำเนียบเครมลินนั้นขอให้สหรัฐฯ และพันธมิตรนาโตยอม “ประนีประนอม” หลายเรื่อง ขณะที่ฝ่ายอเมริกาขู่ใช้มาตรการแซงก์ชันอย่างหนักหากกองทัพหมีขาวโจมตียูเครนที่มีนโยบายฝักใฝ่ตะวันตก
เซียร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ให้คำมั่นต่อ เวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยฝ่ายสหรัฐฯ ว่า กระแสวิตกกังวลเรื่องรัสเซียจะบุกยูเครนนั้น “ไม่มีมูล”
“เราได้ชี้แจงไปยังเพื่อนร่วมงานฝ่ายสหรัฐฯ ว่า เราไม่มีแผนและไม่มีเจตนาที่จะโจมตียูเครน ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องกังวลเรื่องนี้” รยาบคอฟ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมเผยว่าสหรัฐฯ “พิจารณาข้อเสนอของรัสเซียอย่างจริงจัง” และมอสโกเองก็พร้อมที่จะเดินหน้าพูดคุยต่อไป
ทางด้าน เชอร์แมน ชี้ว่า รัสเซีย “ไม่ได้แสดงหลักฐานยืนยันอย่างน่าเชื่อถือ” ว่าจะไม่รุกรานยูเครน และไม่มีคำอธิบายที่ฟังขึ้นว่า เหตุใดจึงต้องส่งทหาร 100,000 นายไปประชิดชายแดนยูเครนในตอนนี้
การประเมินดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งโฆษก จอห์น เคอร์บีย์ ระบุว่า จุดยืนทางทหารของรัสเซีย “ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ”
เชอร์แมน ระบุว่า สหรัฐฯ พร้อมจะใช้แนวทาง “ต่างตอบแทน” กับรัสเซีย ทั้งในแง่ของการลดการเผชิญหน้า (de-escalation) การประจำการขีปนาวุธ และการซ้อมรบต่างๆ แต่ขณะเดียวกันก็ย้ำว่า ข้อเรียกร้องบางอย่างของรัสเซีย “ไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่ดี” ตัวอย่างเช่น การที่มอสโกขอให้นาโตหยุดขยายกองกำลังไปทางทิศตะวันออกเข้าใกล้พรมแดนรัสเซีย เป็นต้น
“เราจะไม่ยอมให้ใครมาปิดกั้นนโยบายเปิดประตู (open-door policy) ของนาโต” เชอร์แมน กล่าว
รัฐมนตรีช่วยฯ สหรัฐฯ เตือนด้วยว่า หากรัสเซียโจมตียูเครนอีกครั้ง “จะนำมาซึ่งราคาและผลลัพธ์ที่ใหญ่หลวง มากกว่าที่พวกเขาเคยโดนเมื่อปี 2014” ซึ่งหมายถึงตอนที่มอสโกบุกยึดคาบสมุทรไครเมีย และสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออก
รยาบคอฟ วิจารณ์คำขู่ของสหรัฐฯ ว่าเป็นการ “แบล็กเมล์และคุกคาม” รัสเซีย แต่ถึงกระนั้นยังเชื่อว่า สถานการณ์โดยรวม “ไม่ได้สิ้นหวังเสียทีเดียว”
สภานาโต-รัสเซียจะมีการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ในวันพุธนี้ (12) จากนั้นในวันพฤหัสบดี (13)จะมีการประชุมของสภาองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ที่กรุงเวียนนา ซึ่งคาดว่าประเด็นหลักที่จะถูกหยิบยกมาหารือคงหนีไม่พ้นเรื่องยูเครน
ที่มา : เอเอฟพี
