โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (27 ธ.ค.) ระบุว่า โรงพยาบาลบางแห่งของอเมริกา อาจล้นไปด้วยเคสคนไข้โควิด-19 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์โอมิครอน แต่โดยทั่วไปประเทศแห่งนี้เตรียมพร้อมไว้เป็นอย่างดีสำหรับรับมือกับการแพร่ระบาดระลอกล่าสุด และอเมริกันชนไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก
คำกล่าวของไบเดน มีขึ้นในขณะที่ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่เชื้อได้รวดเร็วมาก ยังคงเล่นงานตารางการเดินทางช่วงเทศกาลคริสต์มาสของสายการบินต่างๆ เนื่องจากการระบาดของโอมิครอนที่ทำให้นักบินและลูกเรือบางส่วนต้องกักตัว กระตุ้นให้นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ระดับสูงของทำเนียบขาว ชี้ว่าบางทีการบังคับฉีดวัคซีนสำหรับการสัญจรทางอากาศภายในประเทศอาจเป็นสิ่งจำเป็น
"ผมคิดว่ามันเป็นบางอย่างที่ควรพิจารณาอย่างจริงจัง" เฟาซีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็มเอสเอ็นบีซี
ในการประชุมทางไกลกับบรรดาผู้ว่าการรัฐหลายรัฐและเหล่าที่ปรึกษาด้ายสาธารณสุขระดับสูง ซึ่งมีทำเนียบขาวเป็นเจ้าภาพ ไบเดน เน้นว่าตัวกลายพันธุ์โอมิครอนจะไม่ส่งผลกระทบแบบเดียวกับครั้งที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระยะแรกในช่วงปี 2020 หรือการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาเมื่อช่วงกลางปี
"โอมิครอนคือบ่อเกิดแห่งความกังวล แต่มันไม่ควรเป็นบ่อเกิดแห่งความตื่นตระหนก" เขากล่าว
ด้วยที่ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจเชื้อได้อย่างกว้างขวางและโครงการฉีดวัคซีนหมู่ นั่นหมายความว่าสำหรับผู้ติดเชื้อจำนวนมากจะไม่นำไปสู่การล้มป่วยอาการรุนแรง
"เรามีคนฉีดวัคซีนและฉีดเข็มกระตุ้นจำนวนมากมาย ดังนั้น เราจึงไม่เห็นคนไข้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นมากเท่ากับที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้" เขากล่าว "ชาวอเมริกัน อเมริกามีความก้าวหน้า หลายสิ่งหลายอย่างดีขึ้น"
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า "ด้วยเคสผู้ติดเชื้อที่กำลังเพิ่มขึ้น เรายังมีประชาชนหลายสิบล้านคนยังไม่ฉีดวัคซีน เราจึงกำลังเห็นคนไข้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น มีโรงพยาบาลต่างๆ ในบางพื้นที่กำลังเผชิญภาวะคนไข้ล้นโรงพยาบาล ทั้งในแง่ของเครื่องไม้เครื่องมือและเจ้าหน้าที่"
ไบเดน ยอมรับว่าแม้ยกระดับปริมาณการตรวจเชื้อ แต่ชัดเจนว่ามันไม่เพียงพอ "ที่เราเห็นประชาชนต่อแถวเข้ารับการตรวจเชื้อในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มันแสดงให้เห็นว่าเรามีงานอีกมากที่ต้องทำ" เขากล่าว พร้อมระบุว่านอกเหนือจากเพิ่มเติมจุดตรวจเชื้อแบบไม่คิดค่าใช้จ่ายแล้ว เร็วๆ นี้จะส่งชุดตรวจเชื้อแบบตรวจเองที่บ้าน 500 ล้านชุด แก่อเมริกันชนทุกคน
สหรัฐฯ เป็นชาติที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดใหญ่หนักหน่วงที่สุดในโลก จนถึงตอนนี้พบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 52 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 816,000 คน
กระแสต่อต้านวัคซีนอันเนื่องจากจุดยืนทางการเมือง ส่งผลกระทบต่อแนวทางตอบสนองต่อโรคระบาดใหญ่ของสหรัฐฯ รีพับลิกันจำนวนมากขัดขืนความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน ในการผลักดันบังคับฉีดวัคซีนธุรกิจขนาดใหญ่ นอกจากนี้แล้วบรรดาคนที่ลังเลเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นส่วนใหญ่แล้วก็เป็นชาวรีพับลิกันเช่นกัน
แต่นิวยอร์ก หนึ่งในฐานที่มั่นของฝ่ายสนับสนุนวัคซีน ได้กำหนดข้อบังคับเข้มข้นบางอย่าง ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ (27 ธ.ค.) เป็นต้นไป
กฎระเบียบต่างๆ ที่ออกคำสั่งโดย บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีจากเดโมแครต บังคับให้พนักงานภาคเอกชนทุกคนต้องเข้ารับวัคซีน นอกจากนี้ ยังกำหนดแสดงเอกสารรับรองฉีดวัคซีนครบเข็มมแล้วสำหรับทุกคนที่อายุ 12 ปีขึ้นไป ยามเข้าไปในร้านอาหารในร่ม หรือสถานที่สาธารณะอื่นๆ อย่างเช่นศูนย์ออกกำลังกาย หรือโรงภาพยนตร์ ส่วนเด็กอายุ 5 ถึง 11 ขวบ จำเป็นต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน 1 เข็ม
(ที่มา : รอยเตอร์)