WHO เตือนประเทศรวย การฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้ช่วยให้หลุดพ้นจากวิกฤตโควิด พร้อมย้ำเตือนว่าการฉลองช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่แบบไม่มีการควบคุมอาจทำให้เกิดการระบาดใหญ่ขึ้นมีอีก ด้านฝรั่งเศสเริ่มฉีดวัคซีนเด็กอายุ 5 ขวบขึ้นไป พร้อมกับที่มีคำเตือนว่า ยอดติดเชื้อรายวันมีสิทธิพุ่งแตะหลักแสนสิ้นปีนี้ ขณะที่ตัวเลขเคสใหม่เมืองผู้ดีทะลุแสนเรียบร้อยแล้วเมื่อวันพุธ (22 ธ.ค.) ในส่วนของจีนสั่งล็อกดาวน์เข้มเมืองซีอาน ตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์
เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า ไม่มีประเทศไหนสามารถใช้การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มาเป็นตัวช่วยให้หลุดพ้นจากโรคระบาดใหญ่ครั้งนี้ได้ ในทางกลับกัน การปูพรมฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงอยู่แล้วมีแนวโน้มทำให้โรคระบาดยิ่งยืดเยื้อมากกว่าจะจบลง เนื่องจากเท่ากับให้เวลาไวรัสในการแพร่เชื้อและกลายพันธุ์
เกเบรเยซุส ย้ำว่า การฉีดบูสเตอร์ไม่ใช่บัตรผ่านสำหรับการเดินหน้าจัดงานฉลองเอิกเกริกตามที่วางแผนไว้ และเตือนว่า การฉลองเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่แบบไม่มีการควบคุมอาจทำให้เกิดการระบาดใหญ่
คำเตือนนี้ได้รับการตอกย้ำจากนายแพทย์แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของอเมริกา ที่ระบุว่า คนอเมริกันที่ฉีดวัคซีนปกติและฉีดเข็มกระตุ้นแล้วสามารถฉลองกับครอบครัวได้ แต่การไปร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากยังคงไม่ปลอดภัยแม้กระทั่งสำหรับผู้ที่ฉีดเข็มกระตุ้นแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ ข้อมูลของศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของอเมริกา (ซีดีซี) ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยในสหรัฐฯ รอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 25% จากสัปดาห์ก่อนหน้า เป็น 149,300 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3.5% เป็นเฉลี่ยวันละ 1,200 คน โดยโอมิครอนเป็นสายพันธุ์หลักในการระบาดขณะนี้
แม้ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า โควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนมีอาการรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า แต่การที่ตัวกลายพันธุ์นี้ระบาดรวดเร็วมากและสร้างภาระหนักต่อระบบสาธารณสุข ทำให้นักวิจัยเตือนว่า อาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากโอมิครอน
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากเอเอฟพีระบุว่า ยุโรปเป็นภูมิภาคที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ 60% ของยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลก
ในวันพุธ ฝรั่งเศสเริ่มฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 5-11 ปี และทางการเตือนว่า ยอดติดเชื้อรายวันอาจพุ่งแตะ 100,000 คนภายในสิ้นปี จากเฉลี่ยวันละ 54,000 คนในขณะนี้
ส่วนอังกฤษรายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อในรอบ 24 ชั่วโมงทำสถิติสูงสุด 106,000 คนเมื่อวันพุธ ถือว่าเป็นเคสใหม่เกินวันละ 100,000 คนครั้งแรกนับจากที่มีการปูพรมตรวจโควิด พร้อมกันนั้น อังกฤษก็อนุมัติใช้วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปีเช่นเดียวกัน นอกจากนั้น ยังประกาศแผนซื้อยาเม็ดต้านไวรัสของไฟเซอร์ และเมิร์คหลายล้านคอร์ส และลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้ติดเชื้อจาก 10 วัน เหลือ 7 วันเมื่อผลตรวจเปลี่ยนมาเป็นลบ
ด้านฟินแลนด์เปิดเผยแผนขยายโครงการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 5-12 ปี หลังจากวันอังคาร (21) เพิ่งประกาศให้บาร์ปิดให้บริการเวลา 21.00 น. ในวันคริสต์มาสอีฟ เพื่อรับมือสถานการณ์ที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นทำสถิติ
สำหรับเบลเยียมสั่งปิดโรงภาพยนตร์ สถานที่จัดคอนเสิร์ต และสถานบันเทิงอื่นๆ ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่จะถึง หลังพบผู้ติดโควิด 3 ใน 10 ติดเชื้อโอมิครอน
ในส่วนของจีน แม้พบผู้ติดเชื้อเพียง 52 คน แต่รัฐบาลท้องถิ่นเมืองซีอาน ก็ประกาศล็อกดาวน์ประชาชนทั่วทั้งเมืองจำนวนกว่า 13 ล้านคน โดยนับจากวันพฤหัสฯ (23) ประชาชนต้องกักตัวอยู่แต่ภายในบ้าน โดยอนุญาตให้ออกไปซื้อของใช้จำเป็นได้ครอบครัวละ 1 คนทุก 2 วัน หรือออกจากบ้านได้ในกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งสั่งปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็น โดยที่การเดินทางเข้าไปและออกจากเมืองนี้จะถูกตรวจสอบเข้มงวด
ทั้งนี้ ไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนในเมืองซีอานแต่อย่างใด
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นขณะที่จีนยังคงเดินหน้านโยบายโควิดเป็นศูนย์ ก่อนที่ปักกิ่งจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวในเดือนกุมภาพันธ์
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)