ศาลอุทธรณ์มาเลเซียพิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้นว่าอดีตนายกรัฐมนตรี ราจิบ ราซัก มีความผิดจริงในคดีที่เชื่อมโยงการทุจริตเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) ซึ่งถือเป็นการดับฝันของอดีตนายกฯ ผู้อื้อฉาวในการที่จะคัมแบ็กสู่ถนนสายการเมืองเร็วๆ นี้
ปีที่แล้ว ศาลสูงกัวลาลัมเปอร์ได้มีคำพิพากษาจำคุก นาจิบ เป็นเวลา 12 ปี ปรับอีก 50 ล้านดอลลาร์ ในความผิดฐานละเมิดต่อหน้าที่ (breach of trust) ใช้อำนาจไปในทางมิชอบ และฟอกเงิน โดยเป็นหนึ่งใน 5 คดีทุจริตที่เจ้าตัวกำลังต่อสู้ในชั้นศาล
คดี 1MDB นั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคดีทุจริตอื้อฉาวที่สุดในแวดวงการเมืองแดนเสือเหลือง และถึงขั้นที่รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เคยวิจารณ์ว่าเป็นรูปแบบของการมีรัฐบาลที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง หรือ "โจราธิปไตย” (kleptocracy) ขั้นเลวร้ายที่สุด
ทางการสหรัฐฯ และมาเลเซียคาดว่ามีเงินทุนราว 4,500 ล้านดอลลาร์ถูกยักย้ายถ่ายโอนออกไปจาก 1MDB ผ่านเครือข่ายธุรกรรมอันซับซ้อน และกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ไปโผล่อยู่ในบัญชีเงินฝากส่วนตัวของนายกฯ นาจิบ
ศาลตัดสินเมื่อปีที่แล้วว่า นาจิบ มีความผิดฐานรับเงินราว 10 ล้านดอลลาร์มาจากบริษัท SRC International ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัด 1MDB ที่ได้ปิดตัวไปแล้ว ขณะที่ นาจิบ ยืนกรานในความบริสุทธิ์ของตนเอง และไม่ยอมรับผิดแม้แต่ข้อหาเดียว
อับดุลการิม อับดุลจาลีล หัวหน้าผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ระบุว่า คณะผู้พิพากษาทั้ง 3 ท่านเห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลสูงทั้งในแง่ของความผิดและโทษที่ นาจิบ ควรจะได้รับ พร้อมทั้งปฏิเสธข้ออ้างของจำเลยที่ว่าการกระทำต่างๆ ของเขาที่เกี่ยวข้องกับ SRC นั้นเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของชาติ
“ไม่มีอะไรที่เป็นผลประโยชน์ของชาติ มีแต่ความอับอายของชาติเท่านั้น” ผู้พิพากษาอับดุลการิม กล่าว
ศาลยังระบุด้วยว่า จากหลักฐานที่มีอยู่บ่งชี้ว่า นาจิบ “รับรู้” หรือ “มีเหตุอันควรที่จะเชื่อ” ได้ว่า เงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีของเขาเป็นดอกผลจากการฉ้อโกง แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ
คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ในวันนี้ (8 ธ.ค.) เป็นที่จับตามองอย่างมาก เนื่องจากเกรงกันว่าการกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลของพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) เมื่อเดือน ส.ค. จะนำไปสู่การเอื้อประโยชน์หรือลดหย่อนโทษให้แก่อดีตผู้นำพรรคที่ทุจริตฉ้อโกงบ้านเมือง
หลังจากที่ทราบคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ นาจิบ ซึ่งอยู่ระหว่างการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดียอมรับว่ารู้สึก “ผิดหวัง” และจะยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลศาลสูงสุด (Federal Court) ต่อไป
“ผมไม่ทราบ และผมไม่เคยเรียกร้องหรือสั่งให้ใครโอนเงิน 42 ล้านริงกิตมาเข้าบัญชีผม” นาจิบ กล่าว
วี. สิธัมบารัม รองอัยการมาเลเซีย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า กระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาลสูงสุดอาจจะกินเวลานานถึง 9 เดือน
แม้จะถูกยื่นฟ้อง 5 คดีที่เกี่ยวข้องกับ 1MDB รวมความผิดทั้งหมด 42 กระทง แต่ นาจิบ ราซัก ยังคงมีอิทธิพลอย่างสูงภายในพรรคอัมโน และเจ้าตัวเองก็เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อเดือน ก.ย. ว่ามีแผนจะกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง
ที่มา : รอยเตอร์
