กาญจนบุรี - เปรมชัย เดินคอตกเข้าคุก ศาลฎีกายืนคำตัดสินโทษตามศาลอุทธรณ์ จำคุกเจ้าสัวเปรมชัย พร้อมพวก
จากกรณีศาลจังหวัดทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ อ.219/61 และคดีหมายเลขแดงที่ 62/63 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ (โจทก์) นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ในเวลา 09.00 น.วันนี้ (8 ธ.ค.) ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 นายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 พร้อมด้วยนายวิทูล ยิ้มพราย พร้อมทีมทนายความของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 เดินทางมารอนายเปรมชัย ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด และจากการสังเกตสีหน้าของนายยงค์ รวมทั้งนายธานี ดูแล้วไม่มีอาการเคร่งเครียดแต่อย่างใด
ต่อมา เวลา 09.00 น.นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 ได้เดินทางมาถึงศาลจังหวัดทองผาภูมิ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยในครั้งนี้ใบ้หน้าของนายเปรมชัย ปิดผ้าพันแผลขนาดใหญ่เอาไว้บริเวณตาและคิ้วด้านซ้าย เมื่อลงจากรถได้สวมเสื้อสูท รวมทั้งใช้ไม้เท้าพยุงเดินขึ้นไปบนศาลพร้อมกับจำเลยที่ 2 และ 4 ทันที
เวลาไล่เลี่ยกัน นายพนมฤทธิ์ หอมนิจสกุล อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานอัยการภาค 7 พร้อมด้วยนายกฤตศิลป ช่วยศรี อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 7 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดทองผาภูมิ (โจทก์) เดินทางมาถึงเช่นกัน โดยในครั้งนี้มีนายศุภฤกษ์ กลั่นประเสริฐ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ได้เป็นตัวแทนกรมอุทยานฯ เดินทางมารับฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาด้วย
ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิได้ใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้น นายพนมฤทธิ์ หอมนิจสกุล อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานอัยการภาค 7 พร้อมด้วยนายกฤตศิลป ช่วยศรี อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 7 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดทองผาภูมิ (โจทก์) รวมทั้งนายศุภฤกษ์ กลั่นประเสริฐ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จึงเดินทางกลับ
โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำรถเรือนจำ จำนวน 2 คัน มาจอดรอบริเวณหลังศาล และมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนำอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 มารออยู่บริเวณเดียวกัน แต่เจ้าหน้าที่ได้นำผ้าใบมาปิดกั้นเอาไว้ทำให้สื่อมวลชนมองไม่เห็นด้านใน แต่ยังมีช่องว่าพอที่จะมองเห็น โดยพบว่านายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ออกมาจากศาลแล้วทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากนั้นพบนายเปรมชัย กรรณสูต สวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ออกมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 เช่นกัน ส่วนสาเหตุที่ทำให้ล่าช้าเป็นเพราะว่าต้องทำการปลดกำไลอีเอ็มที่เจ้าหน้าที่ติดเอาไว้ที่ขาของจำเลยทั้ง 3 โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นายเปรมชัย พร้อมพวกจึงขึ้นรถแล้วเดินทางไปเรือนจำทองผาภูมิในทันที
ต่อมา เจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิได้นำเอกสารคำพิพากษาของศาลฎีกามาแจกจ่ายให้สื่อมวลชนที่รอรายงานข่าวอยู่เป็นจำนวนมาก โดยศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้องความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 มาตรา 55 (ฐานมีซากสัตว์) เพราะ พ.ร.บ.สงวนฯ ปี 2562 ยกเลิกกฎหมายเก่า จำเลยทั้งสี่จึงพ้นจากความผิดจากการเป็นผู้กระทำผิดฐานนี้ ตาม ป.มาตรา 2
พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ คงจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 14 เดือน จำเลยที่ 2 คงจำคุก 2 ปี 17 เดือน จำเลยที่ 4 คงจำคุก 2 ปี 21 เดือน ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาท ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ แต่ให้ปรับแก้ไขดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่ ผลคำพิพากษาฎีกาวันนี้คือศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องเฉพาะข้อหาร่วมกันรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่า ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา 55 เพราะมีกฎหมายใหม่ออกมาให้ยกเลิกกฎหมายเก่า แต่อัตราโทษที่ศาลลงโทษจำคุกจำเลยนั้นยังคงเท่าเดิม ตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษา คำพิพากษาคดีของศาลฎีกาในวันนี้คดีถึงที่สุดแล้ว และถือเป็นการปิดฉาก ‘คดีเสือดำ’ ที่ นายเปรมชัย กับพวกต่อสู้คดีมานานกว่า 3 ปี