หวั่นโดนจับ! ศิลปินเดนมาร์กวอน 'ฮ่องกง' ให้สิทธิ์คุ้มกันทางกฎหมาย ก่อนมายก ‘รูปปั้นเทียนอันเหมิน’ กลับประเทศ

ศิลปินชาวเดนมาร์กเจ้าของผลงาน “เสาแห่งความอัปยศ” (Pillar of Shame) งานประติมากรรมที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เทียนอันเหมินปี 1989 เรียกร้องให้ทางการฮ่องกงมอบเอกสิทธิ์คุ้มกันจากการถูกดำเนินคดีตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อที่ตนเองจะได้เดินทางไปนำรูปปั้นดังกล่าวกลับเดนมาร์ก

เยนส์ กัลชูท (Jens Galschiot) อนุญาตให้กลุ่มพันธมิตรฮ่องกงสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยที่รักชาติในจีน (Hong Kong Alliance in Support of Patriotic Democratic Movements) ยืมรูปปั้นเสาแห่งความอัปยศไปจัดแสดงแบบไม่ต้องมีกำหนดส่งคืน

ประติมากรรมซึ่งหล่อด้วยทองแดงเป็นรูปใบหน้าและร่างกายที่ถูกทรมานจำนวน 50 ร่างกองสุมกันเป็นเสาสูง 8 เมตรนี้ ถูกจัดแสดงอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮ่องกง (University of Hong Kong) มานานกว่า 20 ปี ทว่าหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศสลายตัวในเดือน ก.ย. และมีสมาชิกจำนวนหนึ่งถูกดำเนินคดีฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ขอให้มีการรื้อถอนรูปปั้นนี้ออกไปเสีย

กัลชูท ซึ่งตั้งราคาผลงานศิลปะชิ้นนี้เอาไว้ที่ 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระบุในจดหมายเปิดผนึกวันนี้ (12 พ.ย.) ว่า เขายินดีจะนำรูปปั้นกลับมายังเดนมาร์ก แต่เนื่องจากขั้นตอนการรื้อถอนและเคลื่อนย้ายมีความละเอียดซับซ้อน จึงจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปควบคุมด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังต้องขอให้ทางมหาวิทยาลัยและรัฐบาลฮ่องกงอำนวยความสะดวกในด้านเทคนิค, การปิดถนน และการออกใบอนุญาตต่างๆ ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น กัลชูท ยังขอการรับรองจากรัฐบาลฮ่องกงว่าเขาจะไม่ถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคง ซึ่งกำหนดโทษทางอาญาสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง, แบ่งแยกดินแดน, ก่อการร้าย และสมคบคิดต่างชาติ


“เท่าที่ผมทราบข่าวมา กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ซึ่งถูกนำมาใช้ในฮ่องกงเปิดทางให้มีการจับกุมพลเมืองต่างชาติที่วิพากษ์วิจารณ์จีนด้วย” เขากล่าว

การเคลื่อนย้ายรูปปั้น “อาจนำไปสู่กิจกรรมหรือการนำเสนอข่าวที่ถูกมองว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีน ดังนั้น ผมจึงขอการรับรองว่าทั้งตัวผมและลูกน้องจะไม่ถูกดำเนินคดี”

ล่าสุด ทั้งมหาวิทยาลัยฮ่องกง, สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติประจำฮ่องกง และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังไม่ออกมาให้ความเห็นในประเด็นนี้

มหาวิทยาลัยฮ่องกงได้สั่งให้กลุ่มพันธมิตรฯ ย้ายรูปปั้นออกภายในวันที่ 13 ต.ค. ซึ่งก็เลยกำหนดเส้นตายมาแล้วประมาณ 1 เดือน

นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและรัฐบาลตะวันตกหลายประเทศวิจารณ์กฎหมายความมั่นคงที่จีนนำมาบังคับใช้กับฮ่องกงเมื่อปี 2020 ว่าเป็นเครื่องมือปิดปากผู้เห็นต่าง และทำให้เกาะศูนย์กลางการเงินแห่งนี้มุ่งสู่ความเป็นเผด็จการ ขณะที่ปักกิ่งยืนยันว่าฮ่องกงยังถูกปกครองภายใต้หลักนิติธรรม และประชาชนก็ยังคงมีสิทธิและเสรีภาพตามสมควร

ที่มา: รอยเตอร์