สภานิติบัญญัติฮ่องกงผ่านกฎหมายเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ฉบับใหม่ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อ “ปกป้องความมั่นคงของชาติ” ขณะที่นักวิจารณ์ชี้ว่ากฎหมายนี้คือการปิดกั้นทางความคิดต่อบรรดาผู้สร้างหนัง และยังทำให้เสรีภาพในการใช้ชีวิตของชาวฮ่องกงถูกลิดรอนขึ้นไปอีกระดับ
จีนได้นำกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่มาบังคับใช้กับฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่สภานิติบัญญัติฮ่องกงในตอนนี้ไม่มีนักการเมืองฝ่ายค้านหลงเหลืออยู่อีก เนื่องจาก ส.ส.ฟากประชาธิปไตยได้พากันตบเท้าลาออกไปเมื่อปลายปีที่แล้วเพื่อประท้วงที่สมาชิกบางคนถูกปลด
รัฐบาลฮ่องกงระบุว่า กฎหมายเซ็นเซอร์มีวัตถุประสงค์เพื่อปิดกั้นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหา “ส่งเสริม สนับสนุน ยกย่องเชิดชู ให้กำลังใจ หรือยุยงปลุกปั่นให้คนทำกิจกรรมซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ” โดยให้อำนาจแก่หัวหน้าคณะรัฐมนตรี (chief secretary) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจรองจากผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง สามารถเพิกถอนใบอนุญาตของภาพยนตร์ทั้งเก่าและใหม่ที่มีเนื้อหา “ขัดต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติ”
บทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายนี้คือจำคุกสูงสุด 3 ปี และปรับไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง
เอ็ดเวิร์ด เหยา รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ฮ่องกง กล่าวต่อสภานิติบัญญัติว่า กฎหมายฉบับนี้ “มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน คือยกระดับระบบเซ็นเซอร์ภาพยนตร์เพื่อป้องกันการกระทำที่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคง”
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ที่ไม่เห็นด้วยชี้ว่ากฎหมายนี้จะทำลายความรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมหนังฮ่องกงที่มีชื่อเสียงมายาวนานหลายสิบปี ตั้งแต่ภาพยนตร์แนวศิลปะป้องกันตัวยุคบุกเบิกของ “บรูซ ลี” เรื่อยมาจนถึงหนังอาร์ตของผู้กำกับชื่อดัง “หว่อง กาไว”
เคนนี เอ็ง (Kenny Ng) อาจารย์ประจำวิทยาลัยภาพยนตร์แห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกงแบ็ปติสต์ ระบุว่า “การเติมเนื้อหาที่เกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงเข้าไปในกฎหมายคือการเซ็นเซอร์ด้วยเหตุผลทางการเมืองอย่างชัดเจน มันรุนแรงเกินไป และอุตสาหกรรมหนังคงต้องใช้เวลาเพื่อปรับตัว”
นับตั้งแต่จีนนำกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติมาใช้เพื่อตอบโต้การชุมนุมของกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อปี 2019 นักการเมืองฝ่ายค้านและนักเคลื่อนไหวฮ่องกงหลายคนถูกจับเข้าคุกด้วยข้อหาต่างๆ กัน ขณะที่บางคนตัดสินใจหนีไปต่างประเทศ
รัฐบาลฮ่องกงยังมีมาตรการตรวจสอบระบบการศึกษา, ศิลปะ และวัฒนธรรมอย่างเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งทำให้สำนักพิมพ์หลายแห่งต้องยอมเซ็นเซอร์ตัวเองเพื่อความอยู่รอด, โรงภาพยนตร์มีการถอดหนังสารคดีซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการประท้วงออก ส่วนพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งหนึ่งก็ยอมรับว่าชิ้นงานที่จัดแสดงอาจถูกตำรวจเข้าไปตรวจสอบ
หนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลี (Apple Daily) ซึ่งเป็นสื่อใหญ่สุดของฮ่องกงที่ประกาศจุดยืนสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย เพิ่งจะปิดตัวไปเมื่อเดือน มิ.ย. หลังถูกตำรวจอายัดบัญชีธนาคารและกวาดจับพนักงาน/ผู้บริหารไปหลายคน ฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ
ที่มา: รอยเตอร์