เอเจนซีส์/เอเอฟพี - รัฐบาลอิรักแถลงนายกรัฐมนตรี มุสตาฟา อัล-คาดิมี(Mustafa al-Kadhimi) ยังคงปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บหลังจากโดรนติดระเบิดโจมตีบ้านพักของเขาในเขตปลอดภัยสูงกรีนโซนที่กรุงแบกแดดในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (7 พ.ย.) ขณะที่กำลังย่างเท้าเข้าบ้าน มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บ 7 คน
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (7 พ.ย.) ว่า แถลงการณ์จากรัฐบาลอิรักออกมาในช่วงต้นของวันอาทิตย์ (7) กล่าวว่า การโจมตีของโดรนที่ติดระเบิดโดยมีเป้าหมายต้องการลอบสังหารผู้นำอิรักที่บ้านพักของเขาในเขตกรีนโซนของกรุงแบกแดดในวันอาทิตย์ (7) นั้นล้มเหลว
โดยมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอิรัก มุสตาฟา อัล-คาดิมี นั้นไม่ได้รับอันตรายจากการโจมตีแต่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อิรัก 2 คนได้เปิดเผยกับเอพีว่า มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเขา จำนวน 7 คนได้รับบาดเจ็บ
“ผมสบายดีและอยู่ท่ามกลางคนของผม ขอขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า” อัล-คาดิมี กล่าวผ่านแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์ไม่นานหลังถูกลอบสังหาร พร้อมกันนี้ เขาเรียกร้องให้อิรักอยู่ในความสงบและควบคุมตัวเอง
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานว่า ในรายงานครั้งแรกที่ออกมาระบุว่า อัล-คาดิมีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ขณะที่ CNN สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า ผู้นำอิรักเพิ่งกลับออกมาจากการตรวจการกองกำลังความมั่นคงอิรักที่รับมือกับกลุ่มผู้ประท้วงที่ประตูทางตอนใต้ของเขตกรีนโซน ซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยสูงสุดในอิรัก โดยมีบ้านพักของเขาตั้งอยู่ รวมไปถึงสถานที่สำคัญอื่นๆ เป็นต้นว่าที่ตั้งของสถานทูตต่างชาติเปิดทำการในเขตนี้
ขณะที่อัล-คาดิมี กำลังย่างเท้ากลับเข้าบ้านโดรนติดทุ่นระเบิดลงมือโจมตีทันทีส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเขาได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีแต่เป็นการบาดเจ็บที่ไม่ร้ายแรง โดยเอเอฟพีชี้ว่าเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (7)
บีบีซีชี้ว่า นายกรัฐมนตรีอิรักคนปัจจุบันเคยเป็นอดีตหัวหน้าสำนักงานข่าวกรองอิรักมาก่อน และเขาเข้าพิธีสาบานตนเพื่อเข้ารับตำแหน่งเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา
ซึ่งมาจนถึงในเวลานี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบการลอบสังหารผู้นำอิรักคนใหม่ ทั้งนี้ กองทัพอิรักประกาศยืนยันเช่นกันว่า มุสตาฟา อัล-คาดิมี ไม่ได้รับอันตรายและทางกองกำลังจะใช้ทุกมาตรการที่เหมาะสมต่อเหตุที่เกี่ยวข้องกับความพยายามลอบสังหารผู้นำครั้งนี้
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ในภายหลังพบว่าอัล-คาดิมี วัย 54 ปี ซึ่งสวมเสื้อสีขาวปรากฏตัวขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะในทีวีต่อหน้าประชาชนชาวอิรักเรียกร้องให้มีความสงบและมีระเบียบเรียบร้อยขึ้นในประเทศ “จรวดและโดรนที่ขี้ขลาดไม่ได้สร้างประเทศและไม่ได้สร้างอนาคต” เขาประกาศ
สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์โจมตีการลอบสังหารนายกรัฐมนตรีอิรักด้วยโดรนโดยกล่าวว่า สหรัฐฯ ขอประณามการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นการกระทำก่อการร้าย และได้เสนอให้ความช่วยเหลือต่อเจ้าหน้าที่ความมั่นคงอิรักในการสอบสวนการโจมตี
“เรามีความโล่งอกที่ได้รับรู้ว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้รับบาดเจ็บ นี่ถือเป็นการกระทำก่อการร้ายซึ่งเป็นสิ่งที่ทางเราขอประณามอย่างรุนแรง โดยมีเป้าหมายไปที่หัวใจของรัฐอิรัก” เน็ด ไพรซ์ (Ned Price) โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวผ่านแถลงการณ์
ทั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มผู้สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสายชีอะห์ปักหลักพักค้างประท้วงด้านนอกเขตกรีนโซนมานานเกือบเดือนแล้วและในวันศุกร์ (5) ล่าสุด การประท้วงกลายเป็นความรุนแรงขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงเดินขบวนมุ่งหน้าสู่เขตกรีนโซน และได้มีการยิงเกิดขึ้นระหว่างผู้ประท้วงรายหนึ่งและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงอิรัก และในภายหลังผู้ประท้วงรายนี้ถูกสังหาร ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ
อัล-คาดิมี ออกคำสั่งให้มีการสอบสวนเกิดขึ้นถึงสาเหตุที่นำไปสู่การปะทะและใครเป็นผู้ละเมิดคำสั่งห้ามเปิดฉากยิง และมีผู้นำกลุ่มติดอาวุธบางคนได้ออกมาประณามอัล-คาดิมีทางสาธารณะถึงการปะทะเลือดในวันศุกร์ (5) ที่นำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด