ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ คร่าพลเรือนอัฟกานิสถาน 10 ชีวิต ในนั้นเป็นเด็ก 7 คนเมื่อเดือนสิงหาคม ไม่ได้มีต้นตอจากการปฏิบัติผิดพลาดหรือประมาทเลินเล่อ ตามผลการสืบสวนของคณะตรวจสอบอิสระของเพนตากอน และไม่มีคำแนะนำให้ดำเนินการทางวินัยใดๆ
พลอากาศโทซามี ซาอิด แห่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ บ่งชี้ในการตรวจสอบทบทวน ว่ามันน่าจะมีต้นตอจากการสื่อสารขัดข้องมากกว่าจะเป็นรูปแบบใดๆ ของการมุ่งร้ายหรือความเซ่อซ่า เขาชี้แจงว่าปัญหาการสื่อสารขัดข้องน่าจะเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการระบุและยืนยันเป้าหมายของการทิ้งระเบิด พร้อมบอกว่ามันเกิดขึ้นแม้มีการใช้มาตรการที่รอบคอบต่างๆเพื่อป้องกันการเสียชีวิตของพลเรือน
อย่างไรก็ตาม ซาอิด ยอมรับว่าการสื่อสารที่ดีกว่านี้ระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจโจมตีและบุคคลสนับสนุนอื่นๆ อาจหยิบยกความกังวลทางกฎหมายเกี่ยวกับปฏิบัติการทิ้งระเบิดมาพูดคุย แม้ว่าพวกเขาอาจไม่ขัดขวางปฏิบัติการโจมตีก็ตาม
รายงานของ ซาอิด ดูเหมือนเป็นการผลักเพนตากอนพ้นจากความผิดและความรับผิดชอบใดๆ ต่อเหตุโจมตีระเบิดร่างเจ้าหน้าที่วัย 37 ปีรายหนึ่งของเอ็นจีโอ ด้านมนุษยธรรมของสหรัฐฯแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกทิ้งระเบิดใส่ขณะกำลังขับรถโดยมีสมาชิกในครอบครัวอีก 9 คนโดยสาร
ในรายงาน ซึ่งผ่านการรับรองจากลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้ดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่ในการป้องกัน "เหตุลำเอียงในข้อมูลที่ยืนยันความคิดหรือทฤษฎีหรือสมมติฐานฝ่ายตนเอง หรือ confirmation bias" ซึ่ง confirmation bias ในกรณีนี้ทำให้ทีมโจมตีเลือกที่รักมักที่ชังข้อมูลที่รวบรวมโดยทีมสนับสนุน ที่ต้องสงสัยว่ากลุ่มบุคคลที่อยู่บนรถยนต์คันดักล่าวเป็นพวกก่อการร้ายรัฐอิสลาม(ไอเอส)
มาร์ค มิลลีย์ ประธานเสนาธิการทหารร่วม ส่งเสียงสนับสนุนนานหลายวันหลังจากนั้น ในสิ่งที่เพนตากอนเรียกว่าเป็น "การโจมตีที่ถูกต้อง" จนกระทั่งทราบว่าคนขับคือนายเซมารี อาห์มาดี ซึ่งทำงานในฐานะวิศวกรไฟฟ้าของกลุ่มช่วยเหลือ Nutrition and Education International ที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ มานานกว่า 1 ทศวรรษ
ในช่วงเวลาที่เขาเสียชีวิต อาห์มาดี กำลังขนเหยือกน้ำไปยังสำนักงานในกรุงคาบูล และตั้งใจว่าจะเข้าไปเอาแล็ปท็อปออกมา
อีมาล พี่ชายของอาห์มาดี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ หลังเกิดเหตุการณ์น่าสลด โดยบอกว่าเขารู้สึกช็อกที่น้องชายถูกเผาเป็นเถ้าถ่านในเหตุโจมตีโดยปราศจากหลักฐานที่หนักแน่นใดๆที่บ่งชี้ว่า อาห์มาดี เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวต่างๆของพวกก่อการร้าย นับตั้งแต่นั้นเขาเรียกร้องให้นำตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายของสหรัฐฯ
เมื่อเดือนที่แล้ว เพนตากอนแถลงว่าจะจ่ายเงินชดเชยแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของอาห์มาดี แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นจำนวนเท่าใด นอกจากนี้แล้วทางกระทรวงการต่างประเทศมอบข้อเสนอช่วยเหลือให้สมาชิกในครอบครัวที่เหลือมาตั้งรกรากใหม่ในสหรัฐฯ โดยข้อเสนอนี้ถูกหยิบยื่นในการประชุมทางไกลระหว่างนายแพทย์ สวีเดน ควอน หัวหน้ากลุ่มเอ็นจีโอของอาห์มาดี กับ โคลิน คาห์ล ปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ฝ่ายนโยบาย
(ที่มา:รัสเซียทูเดย์)