xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯกังวลยิ่ง!พบจีนขยายคลังแสงนิวเคลียร์เร็วกว่าคาดหมายอย่างมาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จีนกำลังขยายคลังแสงนิวเคลียร์เร็วกว่าที่คาดหมายไว้มาก ขยับลดช่องว่างจากสหรัฐฯ ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมอเมริกา(เพนตากอน) ที่เผยแพร่ในวันพุธ(3พ.ย.)

รายงานของเพนตากอนระบุว่าจีนอาจหัวรบนิวเคลียร์ 700 ลูกภายในปี 2027 และอาจแตะระดับ 1,000 ลูกภายในปี 2030 ขนาดคลังแสงที่ใหญ่กว่าที่ทางเพนตากอนเพิ่งประมาณการณ์เมื่อ 1 ปีก่อน ถึง 2 เท่าครึ่ง

สาธารณรัฐประชาชนจีนกำลังลงทุนและขยายจำนวนฐานปล่อยนิวเคลียร์ ทั้งทางบก ทะเลและอากาศ และกำลังก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับสนับสนุนการขยายกองกำลังนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ของพวกเขาครั้งนี้"

คำประเมินอยู่ในรายงานประจำปีของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เกี่ยวกับพัฒนาการของกองทัพจีนที่รายงานต่อสภาคองเกรส

เช่นเดียวกับสหรัฐฯและรัสเซีย 2 ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์ชั้นนำของโลก จีนกำลังสร้างคลังแสงนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ที่สมบูรณ์ (nuclear triad) ด้วยศักยภาพปล่อยอาวุธนิวเคลียร์จากขีปนาวุธนำวิถีแบบทิ้งตัวยิงจากภาคพื้น จากขีปนาวุธยิงจากอากาศ และจากเรือดำน้ำ รายงานระบุ

รายงานระบุจีนดูเหมือนไม่ได้แสวงหาศักยภาพโจมตีทางนิวเคลียร์แบบไร้เหตุผลต่อศัตรูที่ติดอาวุธนิวเคลียร์ หลักๆคือสหรัฐฯ แต่ต้องการป้องปรามการโจมตีจากชาติอื่นๆ ด้วยการคงไว้ซึ่งคำขู่ที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับการตอบโต้ทางนิวเคลียร์

เมื่อ 1 ปีก่อน รายงานของเพนตากอน ระบุว่าจีนมีหัวรบนิวเคลียร์ราวๆ 200 ลูก และจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายในปี 2030

อย่างไรก็ตามเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พวกนักวิจัยอิสระได้เผยแพร่ภาพถ่ายทางดาวเทียม ระบุว่าเป็นโรงเก็บขีปนาวุธนิวเคลียร์แห่งใหม่ทางภาคตะวันตกของจีน "อัตราเร่งที่ก่อความกังวลแก่เราเป็นอย่างมาก" เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯรายหนึ่งกล่าว

"มันก่อคำถามเกี่ยวกับความตั้งใจของพวกเขา" เจ้าหน้าที่กล่าว พร้อมเรียกร้องขอให้จีนมีความโปร่งใสยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพัฒนาการด้านกองกำลังนิวเคลียร์

เพนตากอนประกาศว่าจีนคือความกังวลหลักด้านความมั่นคงพวกเขาสำหรับอนาคต ในขณะที่ปักกิ่งกำลังดำเนินการสร้างกองทัพปลดแอกประชาชนจีนเป็น "กองกำลังระดับโลก" ภายในปี 2049

จีนกำลังขยายกองกำลังทั้งทางอากาศ อวกาศและทางทะเล โดยมีเป้าหมายฉายแสนยานุภาพของพวกเขาไปทั่วโลก แบบเดียวกับที่กองทัพสหรัฐฯทำมาหลายทศวรรษ

ความเป็นปรปักษ์ระหว่าง 2 ชาติ ก่อความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้จะเกิดการปะทะระหว่างสหรัฐฯกับจีน โดยเฉพาะในประเด็นไต้หวัน ซึ่งจีนอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งในดินแดนของพวกเขา แต่ได้รับการสนับสนุนอย่างใกล้ชิดจากสหรัฐฯ

รายงานใหม่ของสหรัฐฯระบุว่าการปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัยอย่างรวดเร็วของจีน มีเป้าหมายเพื่อให้มีศักยภาพภายในปี 2027 เพื่อเอาชนะการตีโต้กลับใดๆ ในความพยายามรวมชาติไต้หวัน ผ่านการกดดันหรือใช้กำลังทหาร

ในรายงานระบุว่าภายในปี 2027 "จีนมีเป้าหมายมีศักยภาพในการตอบโต้กองทัพสหรัฐฯในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และบังคับให้ผู้นำของไต้หวันเข้าสู่โต๊ะเจรจาภายใต้เงื่อนไขของปักกิ่ง"

ขณะเดียวกันนายพลระดับสูงรายหนึ่งของเพนตากอนเตือนในวันพุธ(3พ.ย.) ว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างน่าตกตะลึงของกองทัพจีน ซึ่งแสดงให้เห็นผ่านการทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกโคจรรอบโลกเมื่อเร็วๆนี้ ส่งผลให้โลกกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ยุคของความไร้เสถียรภาพทางยุทธศาสตร์เพิ่มมากขึ้น

"เรากำลังเป็นประจักษ์พยานหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงในอำนาจภูมิยุทธศาสตร์โลกครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยเห็นมา" นายพลมาร์ค มิลลีย์ ประธานเสนาธิการทหารร่วมกล่าว

(ที่มา:เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น