ราคาน้ำมันทรงตัวในวันอังคาร (2 พ.ย.) จับตาข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก ได้แรงหนุนจากผลประกอบการบริษัท ขณะที่ทองคำปรับลด เฝ้ารอการผลการประชุมเฟด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 14 เซนต์ ปิดที่ 83.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 84.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ มีกำหนดเผยแพร่ข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองในวันพุธ (3 พ.ย.) ขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์พบบรรดานักวิเคราะห์คาดหมายว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์ที่แล้ว น่าจะเพิ่มขึ้นราวๆ 1.6 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (2 พ.ย.) ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้แรงหนุนต่อเนื่องจากรายงานประกอบการบริษัท ก่อนหน้าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 138.79 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 36,052.63 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 16.98 จุด (0.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,630.65 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 53.69 จุด (0.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,649.60 จุด
หุ้นของไฟเซอร์ คลอรอกซ์ และอันเดอร์ อาร์เมอร์ ต่างพุ่งทะยานหลังรายงานผลประกอบการ เพิ่มเติมความสำเร็จอีกหนึ่งไตรมาส ที่ส่งผลให้วอลล์ตรีทเคลื่อนไหวทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้แล้ว ตลาดยังจับตาผลการประชุมเฟดในวันพุธ (3 พ.ย.) ซึ่งคาดหมายว่าธนาคารกลางสหัฐฯ จะแถลงมาตรการต่างๆ ในการเริ่มปรับลดแพกเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังส่งสัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงมาหลายเดือน
ปัจจัยนี้ฉุดให้ราคาทองคำ ในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ในวันพุธ (3 พ.ย.) ปิดลบพอสมควร โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 6.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,789.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)