ราคาน้ำมันทรงตัวในวันพฤหัสบดี(28ต.ค.) ยังถูกฉุดจากข้อมูลคลังปิโตรเลียมสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกได้แรงหนุนจากผลประกอบการบริษัท เมินตัวเลขเศรษฐกิจอเมริกา แต่ปัจจัยหลังนี้ดันทองคำปรับขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ ปิดที่ 82.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 84.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) ที่เผยแพร่ในวันพุธ (27 ต.ค.) พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นถึง 4.3 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล หลังจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ลดลงเล็กน้อยราวๆ 400,000 บาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(28ต.ค.) ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ จากรายงานผลประกอบการบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่งอีกชุด ช่วยกลบความผิดหวังตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกา
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 239.79 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,730.48 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 44.74 จุด (0.98 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,596.42 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 212.28 จุด (1.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,448.12 จุด
หุ้นของบริษัทชั้นนำหลายแห่งดีดตัวขึ้น หลังรายงานผลประกอบการ ในนั้นรวมถึงฟอร์ด ที่พุ่งทะยาน 8.7% หลังมีผลดำเนินงานดีกว่าคาดหมาย ส่วนแคทเธอร์พิลลาร์ ปิดบวก 4.1% หลังผู้บริหารเผยพวกเขาได้ส่งผ่านราคาที่สูงขึ้นไปยังผู้บริโภค
รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งบดบังข้อมูลเศรษฐกิจอันซึมเซาของสหรัฐฯ ซึ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ขยายตัวเพียงแค่ 2% ในไตรมาส 3 ลดลงจาก 6.7% ในไตรมาส 2 และ 6.3% ในไตรมาส 1 หลังการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 บั่นทอนกิจกรรมการบริโภคท่ามกลางปัญหาอุปทานติดขัด
ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง ผลักนักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(28ต.ค.) ดีดตัวขึ้นเหนือ 1,800 จุด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,802.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์/เอเอฟพี)