คณะผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาของสำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ในวันพฤหัสบดี (14 ต.ค.) แนะนำฉีดเข็มกระตุ้นวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา สำหรับอเมริกันชนอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงกลุ่มบุคคลที่เสี่ยงสูงติดเชื้ออาการรุนแรงและอาชีพเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
หากสำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) เห็นชอบกับการฉีดเข็มกระตุ้นวัคซีนโมเดอร์นา จากนั้นศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (ซีดีซี) จะออกคำแนะนำอย่างเฉพาะเจาะจงว่าคนกลุ่มใดบ้างที่ควรฉีดเข็มกระตุ้น โดยที่คณะที่ปรึกษาของซีดีซีมีกำหนดประชุมหารือกันในสัปดาห์หน้า
คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนและผลิตภัณฑ์ชีววิทยาที่เกี่ยวข้อง (Vaccines and Related Biological Products Advisory Committee) ของเอฟดีเอ พบปะหารือกันในวันพฤหัสบดี (14 ต.ค.) เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการฉีดเข็มกระตุ้นวัคซีนโมเดอร์นา และจะพิจารณาตัดสินใจว่าจะออกคำแนะนำแบบเดียวกันกับวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันหรือไม่ในวันศุกร์ (15 ต.ค.)
ผลการลงมติในวันพฤหัสบดี (14 ต.ค.) พบว่าคณะกรรมการสนับสนุนฉีดเข็มกระตุ้นวัคซีนโมเดอร์นาอย่างเป็นเอกฉันท์ 19-0 เสียง
"ข้อมูลของตัวมันเองไม่หนักแน่นเพียงพอ แต่แน่นอนว่ามันไปในทิศทางที่ได้รับการสนับสนุนจากการลงมติครั้งนี้" นายแพทย์แพทริค มัวร์ จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก กล่าว พร้อมเผยว่า เขาลงมติสนับสนุนฉีดเข็มกระตุ้นวัคซีนโมเดอร์นา บนพื้นฐานของ "ความรู้สึกลึกๆ เป็นส่วนใหญ่ มากกว่าข้อมูลจริงจังจริงๆ"
หุ้นของโมเดอร์นาดีดตัวขึ้นเกือบ 3% อยู่ที่ 330.71 ดอลลาร์ หลังการลงมติ
เจ้าหน้าที่ของเอฟดีเอโพสต์เอกสารเมื่อวันอังคาร (12 ต.ค.) ระบุข้อมูลของวัคซีนโมเดอร์นาแสดงให้เห็นว่าเข็มกระตุ้นช่วยเพิ่มแอนติบอดีชนิดที่ช่วยป้องกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาบอกด้วยว่าความแตกต่างในระดับแอนติบอดีตอนก่อนและหลังการฉีดเข็มกระตุ้นนั้น ต่างกันไม่มากพอที่จะสามารถวัดผลสำเร็จได้อย่างเจาะจงโดยเอฟดีเอ โดยเฉพาะในบุคคลที่ยังมีแอนติบอดีในระดับสูง
โมเดอร์นากำลังขออนุมัติฉีดเข็มกระตุ้นในปริมาณ 50 ไมโครกรัม หรือครึ่งหนึ่งของเข็มปกติ แต่ยังคงมากกว่าวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน ซึ่งจะฉีดเข็มกระตุ้นในปริมาณ 30 ไมโครกรัม
สำหรับเข็มกระตุ้นนั้นจะเป็นการฉีดให้คนที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มแรกมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้อนุมัติฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นโควิด-19 หลังจากทำเนียบขาวแถลงในเดือนสิงหาคม ว่า มีแผนดำเนินโครงการฉีดเข็มกระตุ้นอย่างกว้างขวาง โดยเหลือเพียงรอการอนุมัติจากเอฟดีเอและซีดีซี
ทั้ง 2 หน่วยงานอนุมัติฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไฟเซอร์/ไบออนเทคเมื่อเดือนก่อน สำหรับประชากรวัยผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงสููง และนับตั้งแต่นั้นจนถึงตอนนี้ มีชาวอเมริกันเกือบ 9 ล้านคนที่เข้ารับวัคซีนเข็ม 3 ไปแล้ว จากข้อมูลของซีดีซีในวันพุธ (13 ต.ค.)
คณะกรรมการที่ปรึกษาฯ ได้รับฟังการนำเสนอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอิสราเอล ที่ว่าวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทคเข็มกระตุ้นช่วยสกัดการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดในประเทศของพวกเขา
ข้อมูลที่นำเสนอในวันพฤหัสบดี (14 ต.ค.) ชี้ว่าโครงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในอิสราเอล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้ออาการรุนแรงในกลุ่มบุคคลอายุ 40 ปีขึ้นไป "สิ่งที่เรากำลังเห็นคือ การหยุดนิ่งของเส้นโค้งการระบาดในอิสราเอล" แพทย์หญิงชารอน อัลรอย-ไพรส์ ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุข ของกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลระบุ
ในสหรัฐฯ การแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาเริ่มอ่อนแรงลงแล้ว ด้วยค่าเฉลี่ย 7 วันของเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวัน ลดลงมา 12% จากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และค่าเฉลี่ย 7 วันของผู้เสียชีวิต ลดลง 5% ทั้งนี้แม้ยังพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 1,250 คนในแต่ละวัน แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน
(ที่มา : รอยเตอร์)
