สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ(เอฟดีเอ) ในวันพุธ(22ก.ย.) อนุมัติฉีดวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค เข็มกระตุ้นกับอเมริกันชนอายุ 65 ปีขึ้นไปและกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงบางส่วน เปิดทางสำหรับฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เข็ม 3 อย่างรวดเร็ว
การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะเว้นระยะห่างอย่างน้อย 6 เดือนหลังฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และการอนุมัติครั้งนี้จะนับรวมกลุ่มบุคคลอ่อนแอต่อการติดเชื้ออาการรุนแรงและกลุ่มคนที่มีหน้าที่การงานเสี่ยงติดเชื้อเข้าไปด้วย ถ้อยแถลงของเอฟดีเอระบุ
ส่วนคณะที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี) เปิดเผยระหว่างการประชุมในวันพุธ(22ก.ย.) ว่าทางคณะที่ปรึกษาจะทำการลงมติเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ในวันพฤหัสบดี(23ก.ย.)
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ แถลงเมื่อเดือนสิงหาคม ว่ารัฐบาลมีความตั้งใจฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่บุคคลอายุ 16 ปีขึ้นไป แต่รอการอนุมัติจากเอฟดีเอและซีดีซี
อย่างไรก็ตามคณะที่ปรึกษาของเอฟดีเอลงมติเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(17ก.ย.) ปฏิเสธอย่างท่วมท้นต่อเสียงเรียกร้องขออนุมัติใช้ในวงกว้างของรัฐบาล โดยออกคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเฉพาะกับชาวอเมริกันอายุ 65 ปีขึ้นไปและกลุ่มคนเสี่ยงติดเชื้ออาการรุนแรง
คณะที่ปรึกษาส่วนใหญ่บ่งชี้ว่า หลักฐานสำหรับสนับสนุนการอนุมัติฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกับกลุ่มคนอายุ 16 ปีขึ้นไปนั้นยังไม่เพียงพอ และพวกเขาต้องการเห็นข้อมูลด้านความปลอดภัยมากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเกี่ยวกับความเสี่ยงหัวใจอักเสบในคนอายุน้อยหลังฉีดวัคซีน
หน่วยงานแห่งนี้อาจหยิบยกประเด็นอนุมัติฉีดวัคซีนในวงกว้างกลับมาพิจารณาอีกครั้งในอนาคต ในขณะที่สมาชิกระดับสูงของเอฟดีเอมีความเห็นแตกแยกกันเกี่ยวกับความจำเป็นของการฉีดเข็มกระตุ้นในประชาชนทั่วไป โดย จาเน็ต วูดค็อค รักษาการผู้อำนวยการเอฟดีเอ สนับสนุนฉีดเข็ม 3 แต่นักวิทยาศาสตร์ระดับอาวุโสบางส่วนของสำนักงานไม่สนับสนุน อ้างอิงจากหลักฐานในปัจจุบัน
จอห์นสันแอนด์จอห์นสันระบุในวันอังคาร(21ก.ย.) ว่าการฉีดเข็มที่ 2 วัคซีนโควิด-19 ของพวกเขา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้ออาการเล็กน้อยไปจนถึงอาการรุนแรง ขณะที่ แอนโทนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์(19ก.ย.) ว่าข้อมูลเกี่ยวกับเข็มกระตุ้นวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา น่าจะมีออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
บางประเทศ ในนั้นรวมถึงอิสราเอลและสหราชอาณาจักร เริ่มโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นไปแล้ว ส่วนสหรัฐฯ อนุมัติฉีดเข็มกระตุ้นแก่กลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องในเดือนก่อน และเวลานี้มีประชาชนผู้มีสิทธิเข้าฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไปแล้วราว 2 ล้านคน
ประธานาธิบดีไบเดน ผลักดันให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ในขณะที่อเมริกากำลังเผชิญกับจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนยังไม่ฉีดวัคซีน รวมถึงกรณีพบเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
(ที่มา:รอยเตอร์)