กองทัพเรือสหรัฐฯ ขายเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำให้แก่บริษัททำลายเรือแห่งหนึ่งในราคาลำละ 1 เซนต์ (ประมาณ 0.34 บาท) หลังจากประจำการมานานหลายทศวรรษ
ราคาลดสะบั้นหั่นแหลกนี้สะท้อนข้อเท็จจริงที่ว่าบริษัททำลายเรือจะได้ประโยชน์จากการขายเศษเหล็กของเรือ หลังจากแยกชิ้นส่วน ในขณะที่ขั้นตอนการลากจูงและทำลายเรือเป็นกระบวนการที่มีค่าใช้จ่ายสูงลิ่ว
กองบัญชาการระบบทางทะเล (NAVSEA) หน่วยงานย่อยของกองทัพเรือสหรัฐฯ เปิดเผยว่า พวกเขาตกลงขายเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส คิตตี ฮอว์ก (USS Kitty Hawk) และยูเอสเอส จอห์น เอฟ.เคนเนดี (USS John F. Kennedy) ให้แก่บริษัท อินเตอร์เนชันนัล ชิปเบรกกิง ลิมิเต็ด ซึ่งมีสำนักงานในเมืองบราวน์สวิลล์ รัฐเทกซัส
ขั้นตอนการลากจูงและทำลายเรือเป็นกระบวนการที่มีค่าใช้จ่ายสูง และก่อนหน้านี้ ทางกองทัพเรือสหรัฐฯ เคยต้องจ่ายเงินมหาศาลแก่อินเตอร์เนชันนัล ชิปเบรกกิง ลิมิเต็ด สำหรับนำเรือต่างๆ ของพวกเขาไปรีไซเคิล
แต่คราวนี้ "มูลค่าของสัญญาสะท้อนว่าบริษัทคู่สัญญาจะได้ประโยชน์จากการขายเศษเหล็ก เหล็ก และสินแร่โลหะประเภทไม่ใช่เหล็กในภายหลัง" สำนักข่าวยูเอสเอ ทูเดย์ รายงานโดยอ้างคำแถลงของโฆษกของกองบัญชาการระบบทางทะเล
เรือทั้ง 2 ลำ เปิดตัวในช่วงทศวรรษที่ 1960 และมีศักยภาพบรรทุกเครื่องบินหลายสิบลำ โดยยูเอสเอส คิตตี ฮอว์ก เคยประจำการในสงครามเวียดนาม ส่วนยูเอสเอส จอห์น เอฟ.เคนเนดี เคยร่วมในสงครามอ่าวเปอร์เซีย
ยูเอสเอส คิตตี ฮอว์ก ปลดประจำการในปี 2009 ส่วนยูเอสเอส จอห์น เอฟ.เคนเนดี ปลดประจำการในปี 2017 ซึ่งนับตั้งแต่นั้นทั้ง 2 ลำใช้เวลาส่วนใหญ่ในอู่ซ่อมเรือของทางกองทัพ
โฆษกของอินเตอร์เนชันนัล ชิปเบรกกิง ลิมิเต็ด เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น บราวน์สวิลล์ เฮรัลด์ ว่า เรือทั้ง 2 ลำ มีกำหนดถูกลากไปยังเมืองบราวน์สวิลล์ เพื่อทำการแยกชิ้นส่วนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
(ที่มา : บิสซิเนส อินไซเดอร์/ยูเอสเอทูเดย์)
