เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เชื่อมโทรศัพท์สายด่วนระหว่างกันอีกครั้งในวันนี้ (4 ต.ค.) โดยฝ่ายเปียงยางยังเรียกร้องให้รัฐบาลโซลเร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์ และเลิกใช้แนวคิดแบบ 2 มาตรฐานในเรื่องการพัฒนาอาวุธ
สัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือแสดงท่าทีเต็มใจที่จะเชื่อมสายด่วน ซึ่งเปียงยางเป็นฝ่ายตัดทิ้งเมื่อต้นเดือน ส.ค.เพื่อตอบโต้การซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ
สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานว่าสายโทรศัพท์ได้ถูกเชื่อมต่อแล้วเมื่อเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 07.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้ออกมายืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่ายได้รื้อฟื้นการพูดคุยกัน 2 ครั้งต่อวันผ่านสายด่วนทางทหารและสายด่วนของกระทรวงการรวมชาติ
โทรศัพท์สายด่วนนี้เป็นกลไกเพียงไม่กี่อย่างที่เชื่อมโยง 2 เกาหลีเข้าไว้ด้วยกัน แต่ยังไม่แน่ว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะนำไปสู่การฟื้นเจรจายุติโครงการขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เพื่อแลกกับการผ่อนคลายคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่
KCNA ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลโสมแดงเรียกร้องให้โซลเติมเต็ม “ภารกิจ” ของตัวเองเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดชายแดน และตอกย้ำคำพูดของผู้นำ คิม ที่บอกว่า เขาตัดสินใจเชื่อมสายด่วนเพราะเห็นแก่ความหวังของประชาชนที่ปรารถนาความอบอุ่นและสันติภาพ
คิม ยังฝากเตือนเกาหลีใต้ให้เลิกใช้ 2 มาตรฐาน หรือมีความเชื่อแบบผิดๆ เกี่ยวกับกิจกรรมทางทหารของที่เกาหลีเหนือ ทั้งที่โซลเองก็ยังไม่หยุดพัฒนาอาวุธ
ด้านกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า สายด่วนมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้ 2 ฝ่ายเกิดการกระทบกระทั่งกันโดยไม่ตั้งใจ และโซลหวังว่าการฟื้นสายด่วนคราวนี้คงจะนำไปสู่การผ่อนคลายความตึงเครียดทางทหาร ในขณะที่กระทรวงการรวมชาติ แสดงความคาดหวังว่าจะสามารถฟื้นเจรจากับโสมแดงได้เร็วๆ นี้
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า วอชิงตันส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ และเชื่อว่าการเชื่อมสายด่วน “จะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้คาบสมุทรเกาหลีกลับคืนสู่ความมีเสถียรภาพ”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่าการเชื่อมสายด่วนเป็นเพียงการแสดงออก “เชิงสัญลักษณ์” ที่ไม่มีความหมายอะไรมาก เนื่องจากเกาหลีเหนือยังคงยิงทดสอบขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง
“ต่อให้มีการเจรจาเกิดขึ้นจริง ก็อาจจะเป็นไปในลักษณะที่ว่าเกาหลีเหนือยอมพูดคุยด้วย แต่จะยังทำกิจกรรมยั่วยุไปด้วยพร้อมๆ กัน” พัค วอนกอน อาจารย์ด้านเกาหลีเหนือศึกษาจากมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีเริ่มเพิ่มทวีขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือตัดสายด่วน และมีการนำขีปนาวุธรุ่นใหม่ๆ ออกมายิงทดสอบอวดสายตาชาวโลก ทั้งขีปนาวุธเร็วเหนือเสียง ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน และขีปนาวุธร่อนทางยุทธศาสตร์ที่อาจติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ด้วย
ในขณะที่โจมตีสหรัฐฯ ว่าใช้นโยบาย “ไม่เป็นมิตร” แต่เปียงยางก็แสดงท่าทีอยากฟื้นสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ และยังบอกด้วยว่าอาจพิจารณาจัดการประชุมซัมมิตอีกครั้งหากรัฐบาลโซลเลิกแนวคิด 2 มาตรฐาน
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า เปียงยางกำลังใช้กลยุทธ์ “แบ่งรับแบ่งสู้” โดยส่วนหนึ่งต้องการให้นานาชาติยอมรับว่าเกาหลีเหนือคือรัฐที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และอีกส่วนหนึ่งต้องการเสี้ยมให้โซลออกห่างจากวอชิงตัน เนื่องจากรู้ดีว่าประธานาธิบดี มุน แจอิน นั้นต้องการสร้างผลงานด้านการทูต ก่อนที่ตนจะหมดวาระดำรงตำแหน่งในเดือน พ.ค. ปีหน้า
ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี