เกาหลีเหนือยิงจรวดไม่ทราบชนิดลงสู่ทะเลนอกชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ จากการเปิดเผยของเกาหลีใต้ในวันอังคาร(28ก.ย.) ไม่กี่วันหลังจาก คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของ คิม จองอึน พูดถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการจัดประชุมซัมมิตระหว่าง 2 ชาติเกาหลี
ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมมาจากคณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ ส่วนทางโฆษกรายหนึ่งของกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเปิดเผยกับเอเอฟพี โดยไม่ประสงค์เอ่ยนาม คาดหมายว่าจรวดดังกล่าวน่าจะเป็น "ขีปนาวุธแบบทิ้งตัว"
การยิงล่าสุดถือเป็นการส่งสารที่ผสมผสานหนล่าสุดของเกาหลีเหนือ เนื่องจากมันมีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลและที่ปรึกษาคนสำคัญของ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ พูดถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการจัดประชุมซัมมิตระหว่าง 2 ชาติเกาหลี
แต่เธอระบุว่า "ความเคารพซึ่งกันและกัน และไม่มีอคติ เป็นสิ่งจำเป็น" พร้อมเรียกร้องเกาหลีใต้หยุดพ่นความเห็นที่อวดดีออกมา
คิม โยจอง ประณามเกาหลีใต้และสหรัฐฯว่า "สองมาตรฐาน" ต่อกรณีวิพากษ์วิจารณ์การประจำการทางทหารของเกาหลีเหนือ แต่ทางพันธมิตรกลับยกระดับศักยภาพด้านการทหารของตนเอง
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ประธานาธิบดีมูน แจ-อิน แห่งเกาหลีใต้ ซึ่งเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งอีกไม่กี่เดือน เน้นย้ำในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ต่อเสียงเรียกร้องที่มีมาช้านานของเขา เกี่ยวกับการประกาศยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ
เกาหลีเหนือยกพลรุกรานเกาหลีใต้ในปี 1950 และการสู้รบยุติลงในอีก 3 ปีต่อมา ด้วยข้อตกลงสงบศึกไม่ใช่สนธิสัญญาสันติภาพ ส่งผลให้ในทางเทคนิคแล้วทั้งสองประเทศยังคงอยู่ในภาวะสงครามระหว่างกัน
เปียงยางอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติต่างๆนานา เกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธต้องห้ามของพวกเขา อย่างไรก็ตามเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ ยืนยันว่าพวกเขามีสิทธิ์ทดสอบอาวุธ
"ไม่มีใครสามารถปฏิเสธสิทธิในการป้องกันตนเองของเกาหลีเหนือ" คิม ซอง บอกกับที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในนิวยอร์ก "เราแค่ยกระดับป้องกันประเทศของเรา เพื่อป้องกันตัวเราเอง และเพื่อความวางใจต่อศักยภาพด้านปกป้องความมั่นคงและสันติภาพของประเทศ"
เกาหลีเหนือได้ทดการทดสอบขีปนาวุธไปแล้วหลายครั้งในเดือนนี้ หนึ่งในนั้นเกี่ยวข้องกับขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลลูกหนึ่ง และอีกครั้งเกี่ยวข้องกับสิ่งที่กองทัพเกาหลีใต้เรียกว่าขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้
ส่วนเกาหลีใต้ก็ประสบความสำเร็จในการยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำเป็นครั้งแรก ส่งผลให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศของโลกที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยดังกล่าว
การเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯหยุดนิ่งมาตั้งแต่การประชุมซัมมิตระหว่าง คิม จองอึน กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีอเมริกา ณ ขณะนั้น ในกรุงฮานอย ปี 2019 พังครืนลง โดยที่การประชุมครั้งนั้นเป็นการเจรจาปลดมาตรการคว่ำบาตรแลกกับการที่เปียงยางยอมละทิ้งโครงการนิวเคลียร์
หลังจากนั้น เกาหลีเหนือ ก็ออกมาประณามเกาหลีใต้และประธานาธิบดีมูนเป็นชุดๆ และระเบิดทำลายสำนักประสานงานระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในชายแดนของพวกเขา แต่เกาหลีใต้เป็นคนสร้าง
"ดูเหมือนเกาหลีเหนือต้องการดูว่าโซลมีความจริงจังมากแค่ไหน ในความตั้งใจปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเกาหลีและยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ" ยาง มู-จิน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยศึกษาเกาหลีเหนือกล่าวกับเอเอฟพี "เปียงยางจะจับตาและศึกษาปฏิกริยาตอบสนองของมูน หลังการยิงในวันนี้ แล้วค่อยตัดสินใจว่าพวกเขาจะดำเนินการต่างๆต่อไปอย่างไร อย่างเช่นการรื้อฟื้นสายด่วนระหว่างสองชาติเกาหลี"
รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เน้นย้ำว่ามีความตั้งใจพบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เกาหลีหนือ ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ โดยปราศจากการวางเงื่อนไขล่วงหน้า ในความพยายามหาทางปลดนิวเคลียร์เปียงยาง ทว่าทางเกาหลีเหนือไม่แสดงถึงเจตนาปลดนิวเคลียร์ ด้วยพวกเขาบอกว่ามันมีความจำเเป็นเพื่อป้องกันตนเองจากการถูกสหรัฐฯรุกราน
(ที่มา:เอเอฟพี)