คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือเปิดเผยว่ามีความตั้งใจรื้อฟื้นสายด่วน 2 ชาติเกาหลีที่ถูกตัดขาดไปก่อนหน้านี้ ในเดือนหน้า แต่กล่าวหาสหรัฐฯปลิ้นปล้อน จากกรณียื่นข้อเสนอเจรจาโดยไม่เปลี่ยนแปลงใดๆในนโยบายที่เป็นปรปักษ์กับเปียงยาง ตามรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ(เคซีเอ็นเอ) ในวันพฤหัสบดี(30ก.ย.)
ระหว่างปราศรัยต่อสภาประชาชนสูงสุดเกาหลีเหนือ (Supreme People's Assembly) รัฐสภาตรายางของประเทศ คิมกล่าวว่าภัยคุกคามจากกองทัพสหรัฐฯและนโยบายที่เป็นปรปักษ์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงภายใต้รัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
รัฐบาลของไบเดนเผยว่าได้ทาบทามไปยังเปียงยาง เพื่อทำลายทางตันของการเจรจารื้อถอนโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ แลกกับการที่สหรัฐฯปลดมาตรการคว่ำบาตร อย่างไรก็ตาม คิม กล่าวหาข้อเสนอหวนคืนสู่การเจรจาและการทูตของสหรัฐฯ ว่าเป็นเพียง "ฉากบังหน้า" ในนโยบายที่เป็นปรปักษ์ที่มีมาอย่างยาวนาน
กระนั้นอีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ เผยว่า คิม แสดงถึงควาตั้งใจรื้อฟื้นสายด่วน 2 ชาติเกาหลี เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ส่วนหนึ่งในความพยายามทำให้ความฝันของประชาชนกลายเป็นจริง ด้วยประชาชนต่างหวังเห็นความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นและสันติภาพที่ถาวรระหว่างสองชาติคู่อริ
เกาหลีเหนือตัดขาดสายด่วนในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ไม่กี่วันหลังเพิ่มกลับมาเปิดใช้งานสายด่วนดังกล่าวเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสองประเทศ
การเจรจาระหว่างเปียงยางกับวอชิงตัน หยุดนิ่งมาตั้งแต่การประชุมซัมมิตที่กรุงฮานอย ปี 2019 ระหว่าง คิม กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น พังครืนลง โดยที่การประชุมครั้งนั้นเป็นการเจรจาปลดมาตรการคว่ำบาตรแลกกับการที่เปียงยางยอมละทิ้งโครงการนิวเคลียร์
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯยื่นข้อเสนอซ้ำๆสำหรับพบปะกับตัวแทนของเกาหลีเหนือ ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ โดยปราศจากการวางเงื่อนไขล่วงหน้า ในความพยายามหาทางปลดนิวเคลียร์เปียงยาง
อย่างไรก็ตาม คิม ประณามเจตนาดังกล่าวว่า "ไม่มีอะไรมากไปกว่าการปลิ้นปล้อนตลบตะแลง ปิดบังพฤติกรรมแสแสร้งและเป็นปรปักษ์ของพวกเขา และขยายขอบเขตนโบายที่เป็นปรปักษ์มากขึ้นจากรัฐบาลชุดก่อนๆ"
"ภายใต้รัฐบาลใหม่ ภัยคุกคามจากกองทัพสหรัฐฯและนโยบายที่เป็นปรปักษ์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และทั้งหมดทั้งมวลก็ยิ่งแต่เจ้าเล่ห์มากขึ้น" เขากล่าวต่อสภาประชาชนสูงสุด
คำกล่าวของคิม มีขึ้นไม่นานหลังจากเมื่อวันอังคาร(28ก.ย.) เกาหลีเหนือได้ยิงทดสอบในสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นขีปนาวุธร่อนไฮเปอร์โซนิก และก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางเดือน เปียงยางได้แถลงว่าประสบความสำเร็จในการยิงทดสอบขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล
การทดสอบต่างๆนานาถือเป็นความก้าวหน้าล่าสุดในโครงการพัฒนาอาวุธของเกาหลีเหนือ ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติรอบแล้วรอบเล่า
มีรายงานว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะพบปะหารือกันในวันพฤหัสบดี(30ก.ย.) ตามคำร้องขอของสหรัฐฯ อังกฤษและฝรั่งเศส เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ หลังจากเปียงยางทดสอบขีปนาวุธร่อนไฮเปอร์โซนิก
(ที่มา:รอยเตอร์/เอเอฟพี)