เอเจนซีส์ - เกาหลีเหนือโวยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สองมาตรฐาน เอาแต่ประณามกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพในการป้องกันตัวเองของเกาหลีเหนือ แต่กลับปิดปากเงียบเมื่ออเมริกาทดสอบอาวุธและซ้อมรบร่วมกับพันธมิตร เตือนเผชิญผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์ถ้าไม่เลิกก้าวก่ายอธิปไตย
คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นประชุมฉุกเฉินแบบปิดลับเมื่อวันศุกร์ (1 ต.ค.) ตามคำขอของอเมริกาและประเทศอื่นๆ เกี่ยวกับการปล่อยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันพฤหัสบดี (30 ก.ย.) เปียงยางทดสอบยิงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งถือเป็นการทดสอบอาวุธระลอกล่าสุดที่รวมถึงการยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกที่เร็วกว่าเสียง 5 เท่า ขีปนาวุธทิ้งตัว และขีปนาวุธร่อนพร้อมศักยภาพในการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์
แม้การประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นใช้เวลาเพียงกว่าชั่วโมงและไม่มีการออกแถลงการณ์ใดๆ แต่ยังสร้างความเดือดดาลต่อโสมแดง โดยในวันอาทิตย์ (3 ต.ค.) โจ ชอล ซู ผู้อำนวยการแผนกองค์การระหว่างประเทศ สังกัดกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ โจมตีว่า การประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงเท่ากับเป็นการเพิกเฉยอย่างเปิดเผยและละเมิดสิทธิอย่างไร้ความรับผิดชอบต่ออธิปไตยของเกาหลีเหนือ อีกทั้งเป็นการยั่วยุอย่างร้ายแรง
โจยังกล่าวหาคณะมนตรีความมั่นคงสองมาตรฐาน เพราะขณะที่ปิดปากเงียบตอนที่อเมริกาทดสอบอาวุธและซ้อมรบร่วมกับพันธมิตร แต่กลับมีปัญหากับกิจกรรมเพื่อป้องกันตัวเองของเกาหลีเหนือ
แถลงการณ์ของโจที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเปียงยางสำทับว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการปฏิเสธความเป็นกลางและความสมดุล ซึ่งเป็นแนวทางหลักสำหรับกิจกรรมของยูเอ็น อีกทั้งยังเป็นประจักษ์พยานของการใช้สองมาตรฐาน
โจเตือนว่า คณะมนตรีความมั่นคงอาจเผชิญผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ หากยังคงละเมิดอธิปไตยของเกาหลีเหนือด้วยพฤติกรรมสองมาตรฐาน และใช้แนวทางที่อิงกับวิธีคิดและวิจารณญาณแบบโจรของอเมริกา
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เปียงยางประกาศว่า การทดสอบอาวุธของตนมีเป้าหมายเพื่อสร้างเสริมศักยภาพในการป้องกันตนเองเช่นเดียวกับที่ประเทศอื่นๆ ทำ พร้อมกล่าวหาวอชิงตันและโซล “สองมาตรฐาน” และใช้ “นโยบายเป็นปรปักษ์” กับตน
การทดสอบอาวุธระลอกล่าสุดตอกย้ำว่า รัฐดาวแดงแห่งนี้พัฒนาอาวุธที่ซับซ้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มเดิมพันสำหรับการเจรจาที่ชะงักงันมานานเกี่ยวกับการยกเลิกโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธแลกกับการที่อเมริกาผ่อนคลายมาตรการแซงก์ชัน ซึ่งที่ผ่านมา เปียงยางมักใช้การทดสอบอาวุธเพื่อต่อรองให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
เมื่อวันพุธ (29 ก.ย.) คิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ประณามการยื่นข้อเสนอซ้ำๆ ของวอชิงตันในการฟื้นการเจรจาโดยปราศจากเงื่อนไขว่าเป็น “เล่ห์กล” พร้อมกล่าวหาคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ใช้นโยบายเป็นปรปักษ์ต่อเปียงยางไม่ต่างจากคณะบริหารชุดที่แล้วของโดนัลด์ ทรัมป์
ทางด้านวอชิงตันวิจารณ์การทดสอบขีปนาวุธของเปียงยางว่า เป็นการบ่อนทำลายเสถียรภาพและคุกคามเพื่อนร่วมภูมิภาค แต่ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาเป็นปฏิปักษ์กับเกาหลีเหนือ และเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยอมรับข้อเสนอฟื้นการเจรจา
เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า อเมริกายังคงพร้อมหารือทุกประเด็นกับเกาหลีเหนือ และได้ยื่นข้อเสนอเจรจาไปแต่ไม่เคยได้รับคำตอบกลับมา