สหรัฐฯ ระบุเป็นเรื่องของกองกำลังความมั่นคงอัฟกานิสถานในการปกป้องประเทศ หลังตอลิบานบุกยืดเมืองเอกของจังหวัดต่างๆเป็นแห่งที่ 6 ในวันจันทร์ (9 ส.ค.) เช่นเดียวกับหลายเมืองที่อยู่ตามแนวชายแดนและเส้นทางการค้าต่างๆ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุภารกิจของกองทัพสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 สิงหาคม อ้างว่าประชาชนชาวอัฟกานิสถานต้องตัดสินใจอนาคตของตนเอง และเขาจะไม่ส่งอเมริกันชนรุ่นแล้วรุ่นเล่าเข้าสู่สงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 20 ปี
ตอลิบาน ซึ่งต่อสู้เพื่อกลับมาบังคับใช้กฎหมายอิสลามอันเข้มงวด นับตั้งแต่ถูกขับไล่ในปี 2001 ได้ยกระดับการโจมตีเพื่อกำราบกองกำลังรัฐบาลอัฟกานิสถาน ท่ามกลางการถอนตัวของกองกำลังต่างชาติ และในวันจันทร์ (9 ส.ค.) พวกเขาสามารถบุกยึดไอบัค เมืองเอกของจังหวัดซามันกัน ทางเหนือของประเทศ กลายเป็นเมืองเอกของจังหวัดต่างๆ แห่งที่ 6 ที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของนักรบกลุ่มนี้
"ตอนนี้ตอลิบานกำลังสู้รบกับกองกำลังอัฟกานิสถานเพื่อยึดกองบัญชาการตำรวจและเขตล้อมรั้วผู้ว่าราชการจังหวัด" เซียอุดดิน เซีย ส.ส.ในเมืองไอบัคกล่าว "หลายพื้นที่ของเมืองเอกตกอยู่ภายใต้การควบคุมของตอลิบานแล้ว"
ก่อนหน้านี้ พวกตอลิบานบุกยึดเมืองเอกของจังหวัดต่างๆ 3 แห่งเมื่อปลายสัปดาห์จนถึงช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบด้วยเมืองซารันจ์ ในจังหวัดนิมรอซ ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมืองซารีปุล เมืองเอกของจังหวัดชื่อเดียวกัน ทางภาคเหนือ และเมืองตาโลกัน ในจังหวัดทัคฮาร์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขณะเดียวกัน กลุ่มตอลิบานสามารถยึดครองเมืองคุนดุซ เมืองเอกของจังหวัดชื่อเดียวกัน และเมืองลัชคาร์กาฮ์ เมืองเอกของจังหวัดเฮลมันด์ ได้แล้วเช่นกัน
จอห์น เคอร์บี โฆษกของเพนตากอน ระบุสหรัฐฯ มีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับแนวโน้มของสถานการณ์ แต่บอกว่ากองกำลังด้านความมั่นคงอัฟกานิสถานมีศักยภาพพอสำหรับต่อสู้กับกลุ่มก่อความไม่สงบ "นี่คือกองกำลังทหารของพวกเขา นี่คือเมืองเอกจังหวัดและประชาชนของพวกเขาที่พวกเขาต้องปกป้อง และมันขึ้นอยู่กับภาวะความเป็นผู้นำ ที่พวกเขาเต็มใจแสดงออกมา โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้"
เมื่อถามว่าทหารสหรัฐฯ จะสามารถทำอะไรได้บ้างหากกองกำลังความมั่นคงอัฟกานิสถานไม่ยอมยืนหยัดต่อสู้ เคอร์บีตอบว่า "เราคงทำอะไรไม่ได้มากนัก"
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม ยอมรับว่าแม้กองทัพเคยเตือนไบเดนก่อนหน้านี้ ว่าเมืองเอกของจังหวัดต่างๆ อาจถึงคราวล่มสลายหากมีการถอนททหาร แต่กระนั้นพวกเขายังประหลาดใจมากที่เมืองเอกเหล่านั้นถูกตอลิบานบุกจู่โจมยึดครองได้อย่างรวดเร็ว
สหรัฐฯ โจมตีทางอากาศไม่ถึงสิบเที่ยวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตอลิบานบุกยึดครองเมืองเอกของจังหวัดต่างๆ และเจ้าหน้าที่รายหนึ่งเปิดเผยว่า กองกำลังอัฟกานิสถานไม่ได้ร้องขอการสนับสนุนใดฯ แม้แต่น้อย ตอนที่เมืองคุนดุซถูกยึด
การสู้รบรุนแรงในอัฟกานิสถานปะทุขึ้นนับจากเดือนพฤษภาคม เมื่อกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยอเมริกาเริ่มถอนทหารชุดสุดท้ายออกไป โดยมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ ทั้งนี้ กลุ่มตอลิบานสามารถเข้ายึดพื้นที่ในเขตชนบทอย่างกว้างขวาง ก่อนเปลี่ยนเป้าหมายเข้าตีเมืองเอกของจังหวัดต่างๆ ควบคู่ไปกับการลอบสังหารเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลในกรุงคาบูล
การโหมโจมตีของตอลิบานมีขึ้นท่ามกลางการประณามจากนานาชาติ และคำเตือนจากสหประชาชาติว่า ชัยชนะทางทหารและการเข้ายึดเมืองของกลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการยอมรับ นอกจากนั้น ตอลิบานยังเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องให้กลับสู่กระบวนการเจรจาที่ชะงักงันมานาน
ช่วงหลายเดือนมานี้ ตอลิบานพยายามเข้ายึดเมืองกันดาฮาร์ และเมืองลาชการ์ กาห์ เมืองเอกของจังหวัดกันดาฮาร์ และจังหวัดเฮลมันด์ ตามลำดับ ซึ่งเป็น 2 จังหวัดสำคัญมากของภาคใต้ แต่รัฐบาลอัฟกานิสถานอ้างว่า ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้และตอลิบานเข้าถึงแค่พื้นที่ชานเมืองหรือชุมชนเล็กๆ เท่านั้น
ความเคลื่อนไหวรุกคืบของตอลิบานโหมกระพือเสียงประณามต่อการถอนกำลังทหารของต่างชาติ ในนั้นรวมถึง เบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมสหราชอาณาจักร ที่ให้สัมภาษณ์กับเดลิเมล ว่าข้อตกลงที่สหรัฐฯ กับตอลิบานเห็นพ้องต้องกันเมื่อปีที่แล้ว เป็นข้อตกลงที่เลวร้าย
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวที่เจรจาโดยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งสหรัฐฯ และทหารต่างชาติทั้งหมดจะต้องถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถาน แลกกับการที่ตอลิบานให้คำมั่นว่าจะไม่ให้เครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ เติบโตขึ้นบนแผ่นดินอัฟกานิสถาน
วอลเลซ เผยว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรร้องขอให้พันธมิตรนาโต้บางส่วนคงกำลังทหารเอาไว้ในอัฟกานิสถาน ครั้งที่ทหารสหรัฐฯ ถอนกำลังออกไป อย่างไรก็ตามข้อเสนอของเขาไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอ
กระทรวงกลาโหมเยอรมนีปฏิเสธข้อเสนอส่งทหารกลับไปประจำการอัฟกานิสถาน หลังตอลิบานบุกยึดเมืองคุนดุซสำเร็จ ในขณะที่ทหารเยอรมนีเคยประจำการอยู่ในเมืองแห่งนี้มานานกว่า 1 ทศวรรษ
(ที่มา : รอยเตอร์)