สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรในวันอาทิตย์ (1 ส.ค.) เชื่อว่าอิหร่านเป็นคนลงมือโจมตีเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมลำหนึ่ง ซึ่งบริหารจัดการโดยอิสราเอล นอกชายฝั่งโอมานเมื่อวันพฤหัสบดี (29 ก.ค.) ส่งผลให้ลูกเรือชาวสหราชอาณาจักร 1 คน และโรมาเนีย 1 คนเสียชีวิต พร้อมประกาศจับมือกันหาทางตอบโต้
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน อิหร่านปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าว หลังจากถูกกล่าวโทษจากฝ่ายอิสราเอล
"จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลที่มี เรามั่นใจว่าอิหร่านเป็นคนลงมือโจมตีในครั้งนี้ ซึ่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ 2 ราย โดยใช้โดรนติดระเบิด" แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง พร้อมบอกต่อว่าไม่มีข้ออ้างความชอบธรรมใดสำหรับการโจมตี
"เรากำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรของเรา เพื่อพิจารณาก้าวย่างถัดไปและกำลังปรึกษาหารือกับรัฐบาลต่างๆ ในภูมิภาคและอื่นๆ สำหรับหนแนวทางตอบโต้ที่เหมาะสม ซึ่งให้ปรากฏออกมาแล้ว" บลินเคน กล่าว
โดมินิค ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหราชอาณาจักรระบุก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ว่าจากการประเมินของสหราชอาณาจักร ได้ข้อสรุปว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงที่อิหร่านจะใช้โดรน 1 ลำ หรือมากกว่านั้นดำเนินการโจมตีผิดกฎหมายและอำมหิต
"เราเชื่อว่าการโจมตีนี้มันเป็นการลงมืออย่างจงใจ เล็งเป้าหมายไว้ และอิหร่านละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง" เขากล่าว และบอกว่า สหราชอาณาจักรกำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรระหว่างประเทศ สำหรับหาทางตอบโต้ที่เป็นรูปธรรม
เหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับเรือเมอร์เซอร์ สตรีท ประดับธงไลบีเรีย เป็นเรือที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าของ แต่บริหารจัดการโดยโซดิแอค มาริไทม์ บริษัทจัดการเรือระหว่างประเทศ ที่มีมหาเศรษฐีชาวอิสราเอลเป็นเจ้าของ
กองทัพเรือ ซึ่งอารักขาเรือบรรทุกน้ำมันลำนี้ ด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน ระบุในวันเสาร์ (31 ก.ค.) ว่าจากสิ่งบ่งชี้ต่างๆ ในเบื้องต้น ชี้ชัดว่ามันเป็นเหตุโจมตีด้วยโดรน
นาฟตาลี เบนเนตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวหาเตหะราน "พยายามเลี่ยงความรับผิดชอบ" สำหรับเหตุโจมตี และเรียกมันว่าเป็นการปฏิเสธที่ขี้ขลาดตาขาว
อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ตอบโต้ระหว่างแถลงข่าวประจำสัปดาห์ในวันอาทิตย์ (1 ส.ค.) ว่า "รัฐบาลไซออนิสต์ (อิสราเอล) ก่อความไร้เสถียรภาพ ข่มขู่คุกคามและใช้ความรุนแรง และเตหะรานขอประณามคำกล่าวหาต่างๆ ที่กล่าวหาว่าอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้อง" โฆษกระบุ "คำกล่าวหาต่างๆ เหล่านี้ อิสราเอลมีเจตนาเบี่ยงเบนความสนใจไปจากข้อเท็จจริงต่างๆ และไม่มีมูลความจริง"
แหล่งข่าวในศูนย์ความมั่นคงทางทะเลของโอมาน ระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนอกอาณาเขตทางทะเลของโอมาน
อิหร่านและอิสราเอลต่างกล่าวหากันและกัน ว่าเป็นคนลงมือโจมตีเรือของอีกฝ่ายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ความตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซียพุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่สหรัฐฯ กลับมาคว่ำบาตรอิหร่านในปี 2018 หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีอเมริกา ณ ขณะนั้น ถอนวอชิงตันออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่อิหร่านทำไว้กับบรรดาชาติมหาอำนาจโลก
(ที่มา : รอยเตอร์)
