รายงานยูเอ็นระบุปีที่แล้วโควิด-19 เล่นงานการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องสะบักสะบอมเสียหาย 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ คาดมูลค่าความสูญเสียสำหรับปีนี้น่าจะสูงพอๆ กัน และกว่าจะฟื้นถึงระดับก่อนวิกฤตโรคระบาดอย่างเร็วที่สุดคือปี 2023 โดยปัจจัยสำคัญคือการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน ขณะที่ WHO เตือนโลกกำลังล้มเหลวในการต่อสู้กับวิกฤตไวรัสจากความเหลื่อมล้ำในการกระจายวัคซีน
รายงานที่องค์การการท่องเที่ยวโลกของสหประชาชาติ (ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ) ร่วมจัดทำกับองค์การการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังก์ถัด) และเปิดเผยเมื่อวันพุธ (30 มิ.ย.) ระบุว่า การที่ประเทศกำลังพัฒนาไม่มีการฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางจะทำให้มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจยิ่งพุ่งขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจและชีวิตประชาชนนับล้านๆ และหลายประเทศพึ่งพิงการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ
ทว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาทำให้การเดินทางทางอากาศแทบหยุดนิ่งทั่วโลกเกือบตลอดปีที่แล้ว ส่งผลให้การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องสูญรายได้ถึง 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2020 และรายงานของยูเอ็นเตือนว่ามูลค่าความสูญเสียของปีนี้อาจพอๆ กับปีที่แล้ว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการกระจายวัคซีนโควิด-19
โครงการกระจายวัคซีนที่เหลื่อมล้ำอย่างกว้างขวางจะส่งผลให้ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกระจุกอยู่ในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ โดยประเทศกำลังพัฒนาอาจมีมูลค่าความสูญเสียถึง 60% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของโลก
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักข่าวเอเอฟพี ประเทศที่มีรายได้สูงตามเกณฑ์ของธนาคารโลกเวลานี้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้วเฉลี่ย 79 โดสต่อประชากร 100 คน ส่วนประเทศที่มีรายได้ต่ำมีสัดส่วนการฉีดวัคซีนแค่ 1 โดสต่อประชากร 100 คน
เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า โลกกำลังเผชิญวิกฤตโรคระบาดสองระดับจากความไม่เท่าเทียม และสำทับว่า WHO กำลังเร่งจัดหาวัคซีนให้ 5 ประเทศที่ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนเลย ได้แก่ บุรุนดี เอริเทรีย เฮติ เกาหลีเหนือ และแทนซาเนีย
สำหรับโครงการโคแว็กซ์ที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ประเทศยากจนเข้าถึงวัคซีนนั้น ล่าสุดจัดส่งวัคซีนให้ประเทศที่เข้าร่วม 133 ประเทศและดินแดน รวม 89 ล้านโดส และวัคซีนในสต๊อกหมดเกลี้ยงตั้งแต่เดือนมิถุนายน ท่ามกลางคำเตือนจากผู้อำนวยการใหญ่ WHO ว่า โลกกำลังล้มเหลวในการต่อสู้กับโควิด
รายงานของยูเอ็นยังตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศกำลังพัฒนาเป็นกลุ่มที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงมากที่สุดเมื่อปีที่แล้วคือราว 60-80%
แม้คาดว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเร็วกว่าในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูง เช่น อเมริกา แต่ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอคาดว่ากว่าที่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะฟื้นถึงระดับก่อนเกิดวิกฤตอย่างเร็วที่สุดคือปี 2023
ซานดรา คาร์วาโอ หัวหน้าฝ่ายข่าวกรองการตลาดของยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ คาดว่า การฟื้นตัวจะมีระดับที่หลากหลายมากระหว่างแต่ละภูมิภาคและแต่ละประเทศ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าใบรับรองโควิด-19 ระบบดิจิทัลของสหภาพยุโรป (อียู) ที่มีผลบังคับใช้ในวันพฤหัสฯ (1 ก.ค.) ถือเป็นระบบที่มีความประสานสอดคล้องที่สุดในระดับภูมิภาคในขณะนี้ ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชีย-แปซิฟิกยังปิดพรมแดนหรือมีข้อจำกัดอย่างมาก
ด้านอังก์ถัดคาดว่าการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในปีนี้จะลดลง 63-75% เมื่อเทียบกับปี 2019 ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 1.7-2.4 ล้านล้านดอลลาร์