รอยเตอร์ - โซลอนุมัติแผนในวันจันทร์ (28 มิ.ย.) เพื่อจัดซื้อระบบต่อต้านจรวดและปืนใหญ่ราคา 2.6 พันล้านดอลลาร์เหมือนที่อิสราเอลกำลังใช้เพื่อสู้กับกลุ่มฮามาสในตะวันออกกลาง แต่โซลวางเป้าไว้เพื่อป้องกันการโจมตีจากเกาหลีเหนือ
รอยเตอร์รายงานวานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่โดยรอบกรุงโซลนั้นมีประชากรอาศัยอย่างหนาแน่น 52 ล้านคน และยังตั้งอยู่ในรัศมีทำการของการโจมตีด้วยปืนใหญ่พิสัยไกลและเครื่องยิงจรวดแบบหลายลูกในเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแผนพิมพ์เขียวกลาโหมโซลได้เรียก โคเรียน ไอร์ออน โดม นั้นสามารถปกป้องกรุงโซลและสถานที่สำคัญไว้ได้
ซึ่งในวันจันทร์ (28) คณะกรรมาธิการที่นั่งเป็นประธานโดยรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ซูห์ วุค (Suh Wook) ได้สั่งอนุมัติแผนและคาดหวังว่าจะสามารถเสร็จสมบูรณ์ได้ราวปี 2035 สำหรับราคาการก่อสร้าง 2.6 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2.89 ล้านล้านวอน สำนักงานโครงการจัดซื้อกลาโหมเกาหลีใต้ DAPA (Defence Acquisition Program Administration) กล่าวผ่านแถลงการณ์
“ผ่านโครงการนี้มีการคาดหวังถึงความสามารถในการตอบโต้ภัยคุกคามศัตรูจากระบบปืนใหญ่ระยะไกลจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น รวมไปถึงการทำให้มีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีภายในประเทศและการสร้างงานภายในประเทศ” รายงานจากแถลงการณ์
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เคยกล่าวว่า การมีอยู่ของยุทโธปกรณ์ เช่น ระบบต่อต้านมิสไซล์แพททริเอทและระบบ THAAD นั้นถูกออกแบบเพื่อตั้งเป้าหมายไปที่ความสามารถที่เพิ่มขึ้นของมิสไซล์พิสัยใกล้ของเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ ระบบใหม่มีเป้าหมายต่อต้านระบบปืนใหญ่พิสัยไกลทั้งหมดและรวมไปถึงเครื่องยิงจรวดแบบหลายลูกพร้อมกัน
รอยเตอร์รายงานว่า เปียงยางยังไม่ออกมาแสดงความเห็นต่อการนำระบบไอร์ออนโดมแบบอิสราเอลมาใช้ในกิจการทหารของเกาหลีใต้ แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีปืนและเครื่องยิงจรวดร่วม 13,600 ยูนิตของเกาหลีเหนือที่ตั้งอยู่ใกล้พรมแดน หรือราว 45 กิโลเมตรห่างจากกรุงโซลไปเท่านั้น