คิม โยจอง น้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือ ออกมาเตือนวันนี้ (22 มิ.ย.) ว่าสหรัฐฯ กำลังตั้งความหวังอย่างลมๆ แล้งๆ จากการขอเปิดเจรจากับโสมแดง และจะต้องเป็นฝ่าย “ผิดหวังยิ่งกว่าเดิม”
ท่าทีจากน้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของ คิม จองอึน มีขึ้น หลังจากที่ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ออกมาตีความปฏิกิริยาแรกของผู้นำโสมแดงต่อการทบทวนนโยบายของวอชิงตันว่าเป็น “สัญญาณที่น่าสนใจ”
ไบเดน ให้คำมั่นว่าจะใช้แนวทางเชิงปฏิบัติที่รอบคอบรัดกุมกับเกาหลีเหนือ รวมถึงวิธีการทูตเพื่อโน้มน้าวให้โสมแดงยอมยุติโครงการพัฒนาขีปนาวุธและละทิ้งคลังแสงนิวเคลียร์
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้นำ คิม ก็ออกมาพูดในทำนองว่า เปียงยางจำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมทั้งสำหรับ “การเจรจาและการเผชิญหน้า”
ซัลลิแวน ให้สัมภาษณ์กับเอบีซีนิวส์ว่า คำแถลงของ คิม จองอึน “น่าสนใจ” และสหรัฐฯ “จะรอดูว่าพวกเขาจะพยายามติดต่อเราโดยตรงบ้างหรือไม่ เพื่อแสวงหาหนทางที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า”
อย่างไรก็ดี คิม โยจอง ซึ่งเป็นน้องสาวและที่ปรึกษาคนสนิทของผู้นำเกาหลีเหนือ ดูเหมือนจะปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะฟื้นฟูการเจรจาได้ใหม่เร็วๆ นี้
สำนักข่าว KCNA รายงานถ้อยแถลงของเธอว่า สหรัฐฯ ดูเหมือนกำลัง “ปลอบใจตัวเองอยู่” และ “ตั้งความหวังอย่างลมๆ แล้งๆ” ซึ่งจะทำให้พวกเขาต้องเป็นฝ่าย “ผิดหวังยิ่งกว่าเดิม”
สหรัฐฯ ได้ส่ง ซุง คิม ผู้แทนพิเศษฝ่ายกิจการเกาหลีเหนือไปเยือนกรุงโซลเป็นเวลา 5 วัน ซึ่งเมื่อวานนี้ (21) ทูตพิเศษสหรัฐฯ ก็ได้ยื่นข้อเสนอขอเปิดเจรจากับเกาหลีเหนือ “แบบไม่จำกัดสถานที่และเวลา และไม่มีเงื่อนไขเบื้องต้น”
ระหว่างเข้าพบรัฐมนตรีกระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้ในวันนี้ (22) ซุง คิม ยังคงเอ่ยย้ำขอเสนอเดิมอีกครั้ง ก่อนที่น้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือจะออกคำแถลงตอบโต้ในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
คิม จองอึน ยอมรับระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคแรงงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สถานการณ์ด้านอาหารในเกาหลีเหนืออยู่ในภาวะ “ฝืดเคือง” เนื่องจากภาคการเกษตรผลิตอาหารได้ไม่เพียงพอเลี้ยงคนในประเทศ อีกทั้งยังถูกซ้ำเติมจากมาตรการคว่ำบาตรนานาชาติ และโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้การค้าขายกับจีนซึ่งถือเป็นที่พึ่งหลักในทางเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือลดลงไปมาก
ที่มา: เอเอฟพี