นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก ในวันพุธ (16 มิ.ย.) ออกคำสั่งบังคับพลเรือนของเมืองหลวงรัสเซีย ที่ทำงานในอุตสาหกรรมบริการ ฉีดวัคซีนต่อต้านโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
คำแถลงของนายกเทศมนตรี เซอร์เก ซอบยานิน หนึ่งในคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนในเมืองหลักแห่งแรกๆ ของโลก ถือเป็นการยอมรับอย่างตรงไปตรงมาจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งๆของรัสเซีย ว่าทางการกำลังประสบปัญหาในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่
รัสเซียยกเลิกข้อจำกัดสกัดโควิด-19 เกือบทั้งหมดเมื่อปีที่แล้ว และประเทศแห่งนี้เดินหน้าจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก อาทิเวทีสัมมนาทางเศรษฐกิจในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก และกำลังเป็นเจ้าภาพร่วมของศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2020)
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ส่งสัญญาณซ้ำๆ ว่า รัสเซียกำลังก้าวข้ามไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และอ้างว่า ประเทศของเขา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 6 ของโลก จัดการกับโรคระบาดใหญ่ได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ เกือบทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ซอบยานิน ส่งสัญญาณที่ต่างออกไป โดยระบุในถ้อยแถลงที่เผยพแร่บนเว็บไซต์ส่วนตัวว่า “เราต้องทำทุกอย่างเพื่อเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนหมู่ในเวลาอันสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อหยุดโรคร้ายอันน่าสยดสยองนี้ หยุดการเสียชีวิตของผู้คนหลายพัน”
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในมอสโกรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่โควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแนวโน้มแบบเดียวกับสถานการณ์ทั่วรัสเซีย การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อมีขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ประสบปัญหาในการโน้มน้าวให้ชาวรัสเซียออกมารับวัคซีน แม้ประเทศแห่งนี้ได้เริ่มแคมเปญฉีดวัคซีนฟรีมาตั้งแต่เดือนธันวาคม
ซอบยาบิน เผยว่า จนถึงตอนนี้มีประชาชนในกรุงมอสโกเข้ารับการฉีดวัคซีนเพียงแค่ 1.8 ล้านราย ในขณะที่เมืองแห่งนี้มีประชากรทั้งสิ้น 12 ล้านคนและเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในรัสเซีย
“สถานการณ์โคโรนาไวรัสยังคงน่าตกใจ” ซอบยานิน กล่าว หลังเจ้าหน้าที่แถลงพบผู้ติดเชื้อใหม่ 5,782 คน ในวันพุธ (16 มิ.ย.) และเสียชีวิต 75 ราย “สืบเนื่องจากสถานการณ์ด้านระบาดวิทยาที่ยุ่งยากสุดขั้ว ในวันนี้หัวหน้าแพทย์สุขาภิบางของเมืองมอสโก จึงมีคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนคนงานในภาคบริการ”
ราว 60% ของคนงานภาคอุตสาหกรรมบริการในมอสโก หรือราวๆ 2 ล้านคน ได้รับคำสั่งให้ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 โดสภายในวันที่ 15 สิงหาคม ในนั้นรวมถึงคนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วัฒนธรรมทั้งหลายและพนักงานร้านอาหาร
คำสั่งของ ซอบยานิน ซึ่งมีท่าทีท้ารบกับโรคระบาดใหญ่มากกว่าเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ มีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ หลังจาก ปูติน บอกว่าเครมลินจะไม่ออกคำสั่งบังคับประชาชนฉีดวัคซีน
ผู้นำรัสเซียเคยระบุในเดือนพฤษภาคม ว่า การบังคับฉีดวัคซีนใดๆ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และไม่ได้ผล และบอกว่า พลเมืองเองจำเป็นต้องตระหนักถึงความอันตรายถึงตายหากเลือกที่จะไม่เข้ารับวัคซีน
จุดยืนดังกล่าวได้รับการเน้ยย้ำอีกครั้งโดย ดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลินในวันพุธ (16 มิ.ย.) ที่บอกว่าไม่มีการพูดคุยกันในหมู่ผู้นำของรัสเซีย เกี่ยวกับการประกาศบังคับฉีดวัคซีนทั่วประเทศ
ผลโพลต่างๆ นานา เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่าชาวรัสเซียจำนวนมากไม่เต็มใจเข้ารับการฉีดวัคซีนแบบสมัครใจ ในนั้นรวมถึงผลสำรวจความคิดเห็นนี้ที่พบว่ามีชาวรัสเซียถึง 60% ที่มีความตั้งจะไม่ฉีดวัคซีน
ในความพยายามโน้มน้าวประชาชนออกมาฉีดวัคซีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซอบยานิน แถลงว่า ชาวมอสโกทุกคนที่เข้ารับวัคซีนโควิด-19 โดสแรกไปแล้ว จะเข้าสู่การชิงโชคลอตเตอรีโดยอัตโนมัติ ลุ้นรางวัลใหญ่เป็นรถยนต์
รัสเซียเริ่มโครงการฉีดวัคซีนหมู่ในเดือนธันวาคม ด้วยวัคซีนผลิตเองอย่างสปุตนิก วี ที่ทาง ปูติน อวดอ้างว่าเป็นวัคซีนดีที่สุดในโลก และนับตั้งแต่นั้น รัสเซียได้อนุมัติวัคซีนเพิ่มเติมอีก 3 ตัวสำหรับใช้กับประชาชนทั่วไป ประกอบด้วยเอพิแวคโคโรนา โควิแวคและสปตนิก ไลท์ ซึ่งเป็นวัคซีนโดสเดียว
สปุตนิก วี ได้รับการอนุมัติใน 67 ประเทศ ในนั้นรวมถึงชาติอดีตสหภาพโซเวียตอย่าง เบลารุสและอาร์เมเนีย และพันธมิตรอย่างเวเนซุเอลาและอิหร่าน แต่ก็รวมถึงอาร์เจนตินา บราซิล อินเดียและปากีสถานเช่นกัน
(ที่มา: เอเอฟพี)