“ปักกิ่ง” โวย “นาโต้” จ้องเผชิญหน้า หลัง “ไบเดน” กล่อม “พันธมิตรตะวันตก” ออกแถลงการณ์ประกาศจุดยืนในการร่วมมือต่อต้านความท้าทายเชิงระบบจากนโยบายของพญามังกร อย่างไรก็ดี สมาชิกบางชาติในยุโรปเตือนนาโต้อย่าหลงประเด็น และละความสนใจไปจากศัตรูหมายเลขหนึ่งอย่างรัสเซีย
บรรดาผู้นำของชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ซึ่งประชุมกันในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ประกาศจุดยืนเช่นนี้เมื่อวันจันทร์ (14 มิ.ย.) ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เดินหน้าฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพันธมิตรภาคพื้นแอตแลนติก ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม
แถลงการณ์ของนาโต้ระบุว่า การดำเนินการอย่างแข็งกร้าวยืนกรานของจีนทั้งการสร้างคลังแสงนิวเคลียร์ การเพิ่มแสนยานุภาพในสงครามไซเบอร์และอวกาศ กำลังคุกคามระเบียบโลก
ด้านคณะทูตจีนประจำสหภาพยุโรป (อียู) ออกคำแถลงตอบโต้โดยเรียกร้องให้นาโต้มองพัฒนาการของจีนอย่างมีเหตุผล หยุดการให้ร้ายเกินจริงด้วยทฤษฎี “ภัยคุกคามจากจีน” ในรูปแบบต่างๆ และไม่ใช้ผลประโยชน์โดยชอบธรรมและสิทธิตามกฎหมายของจีนเป็นข้ออ้างในการปลุกปั่นสถานการณ์การเมืองควบคู่กับการสร้างบรรยากาศในการเผชิญหน้า
คำแถลงของฝ่ายจีนสำทับว่า ข้อกล่าวหาของนาโต้เป็นการใส่ร้ายการพัฒนาอย่างสันติของจีน ประเมินสถานการณ์ระหว่างประเทศผิดพลาด และสานต่อแนวคิดยุคสงครามเย็น
นอกจากนั้น ที่กรุงปักกิ่ง เจ้า ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงในวันอังคาร (15) ว่า อเมริกาและยุโรปมีผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน และบางประเทศในยุโรปจะไม่ผูกตัวเองกับรถม้าศึกต่อต้านจีนของวอชิงตัน
ปีที่ผ่านมา เกิดความตึงเครียดทางการทหารมากขึ้นระหว่างจีนกับมหาอำนาจคู่แข่ง ซึ่งรวมถึงอเมริกาและอินเดีย จากประเด็นขัดแย้งต่างๆ เช่น พรมแดนแถบหิมาลัย ไต้หวัน และทะเลจีนใต้
ขณะเดียวกัน งบประมาณกลาโหมของจีนก็อยู่ในระดับสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากอเมริกา และเมื่อเดือนมีนาคมกระทรวงการคลังจีนประกาศเพิ่มงบประมาณส่วนนี้ 6.8% ในปีงบประมาณปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม มูลค่ารวมของมันก็ยังคงไม่ถึง 1 ใน 3 ของงบประมาณกลาโหมของสหรัฐฯ อยู่ดี
นอกจากนั้น ปักกิ่งยังอัดฉีดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้โครงการอวกาศเพื่อไล่ตามรัสเซียและอเมริกา
เจนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรนาโต้ต้องการร่วมมือกับจีนในประเด็นโลกหลายอย่าง เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่เตือนว่า อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นและนโยบายระหว่างประเทศของจีนเป็นความท้าทายต่อความมั่นคงของพันธมิตรนาโต้
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (14) สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำลอนดอน ก็เพิ่งแถลงว่ากลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมสำคัญของโลก (จี 7) ต้องการปั่นสถานการณ์การเมือง หลังจากถูกชาติตะวันตกมั่งคั่งร่ำรวยนำโดยสหรัฐฯ กลุ่มนี้ ออกแถลงการณ์ปิดประชุมสุดยอดของพวกตน ซึ่งจัดขึ้น 3 วันในเทศมณฑลคอร์นวอลล์ของสหราชอาณาจักร วิพากษ์วิจารณ์เรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนในซินเจียง ตลอดจนถึงประเด็นฮ่องกงและไต้หวัน
อย่างไรก็ตาม แม้ไบเดนสามารถโน้มน้าวให้นาโต้ลุกขึ้นมาต่อต้าน “ลัทธิเผด็จการนิยม” และอิทธิพลทางการทหารที่เพิ่มขึ้นของจีน จากเป้าหมายดั้งเดิมเมื่อเริ่มก่อตั้งคือการปกป้องยุโรปจากสหภาพโซเวียตในยุคสงครามเย็น ทว่า พันธมิตรยุโรปหลายชาติก็แสดงความกังวลว่า การที่หันมาจับจ้องปักกิ่งมากขึ้นอาจเบี่ยงเบนโฟกัสของนาโต้ออกไปจากปฏิปักษ์สำคัญอย่างรัสเซีย รวมทั้งมองว่ายังมีด้านซึ่งควรต้องร่วมมือกับจีนด้วย
นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ยืนยันในการแถลงข่าวภายหลังประชุมซัมมิตนาโต้ในวันจันทร์ (14) ว่า พันธมิตรนาโต้ไม่ควรประเมินอันตรายจากปักกิ่งสูงเกินไป แต่ต้องหาสมดุลที่เหมาะสม เพราะแม้จีนเป็นศัตรูในหลายด้าน แต่ก็เป็นหุ้นส่วนในหลายประเด็นเช่นเดียวกัน
ขณะที่ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุเห็นด้วยว่า นาโต้ไม่ควรตื่นตูมเกินไปและทำลายความสัมพันธ์กับจีน เนื่องจากนาโต้เป็นองค์กรทางการทหาร ขณะที่ความสัมพันธ์กับจีนไม่ใช่ประเด็นทางการทหาร และย้ำว่า จุดสนใจของนาโต้คือแอตแลนติกเหนือ
นอกจากเรื่องจีนแล้ว แถลงการณ์นาโต้ยังเตือนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่มีกำหนดพบกับไบเดนในวันพุธ (16) ที่เจนีวา ว่า การสะสมกำลังทหารและพฤติกรรมยั่วยุของรัสเซียบริเวณพรมแดนด้านตะวันออกของนาโต้ทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพ
ทางด้านไบเดน กล่าวว่า ปูตินเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งและคู่ควร และสำทับว่า อเมริกาไม่ต้องการสร้างความขัดแย้ง แต่พร้อมตอบโต้ หากมอสโกยังคงมีพฤติกรรมที่เป็นอันตราย เขายังบอกอีกว่า จีนและรัสเซียพยายามทำให้พันธมิตรภาคพื้นแอตแลนติกเกิดการแตกแยกกัน
(ที่มา : เอเอฟพี, เอพี, รอยเตอร์)