เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(25 พ.ค)ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์การซัมมิตครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน และผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ที่เมืองเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เดือนมิถุนายน คาดจะถกในด้านเสถียรภาพทางยุทธศาสตร์และการแก้ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาค ถือเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้งสอง
เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้(25 พ.ค)ว่า โฆษกทำเนียบขาว เจน ซากี กล่าวผ่านแถลงการณ์ในวันอังคาร(25)มีใจความว่า “ผู้นำทั้งสองจะหารือต่อทุกประเด็นอย่างรอบด้านหลังสหรัฐฯพยายามที่จะกลับสร้างความสัมพันธ์ที่สามารถคาดหมายได้และมีเสถียรภาพกับรัสเซียอีกครั้ง”
การซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 มิ.ย ที่เมืองเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเคยเป็นที่จัดการเจรจาระหว่างอดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต มิคคาอิล กอร์บาชอฟ และอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โรนัลด์ เรแกน ในปี 1985 ก่อนที่อดีตสหภาพโซเวียตจะล่มสลายในปี 1991
ด้านเครมลินยืนยันการประชุมซัมมิตระหว่างปูตินและไบเดนว่าจะเกิดขึ้นจริงพร้อมกล่าวว่า คาดว่าผู้นำทั้งสองจะหารือประเด็นด้านความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์และทางออกของความขัดแย้งภายในภูมิภาค รวมไปถึงปัญหาการระบาดโรคโควิด-19
เอเอฟพีชี้ว่า จะเป็นการเดินทางต่างประเทศครั้งแรกของไบเดนในฐานะผู้นำสหรัฐฯ โดยไบเดนจะเดินทางไปที่เจนีวาทันทีหลังจากที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7 ที่อังกฤษและการประชุมนาโต้และสหภาพยุโรปแล้ว
ซากีกล่าวย้ำในการแถลงข่าวว่า ทางสหรัฐฯจะไม่ถือว่าการพบกับประธานาธิบดีปูตินนั้นเป็นเสมือนการตบรางวัลให้กับรัสเซีย ซึ่งภายในประเทศพบว่าไบเดนได้รับเสียงวิจารณ์อย่างมากโดยเฉพาะจากฝ่ายรีพับลิกันที่รัฐบาลสหรัฐฯที่ยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรการก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติ นอร์ด สตรีม 2(Nord Stream 2) ที่ชี้ว่าเป็นการเอื้อต่อรัสเซีย
ฟ็อกซ์นิวส์รายงานว่า ไบเดนปกป้องคำสั่งยกเลิกการคว่ำบาตรโดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะโครงการก่อสร้างใกล้เสร็จสิ้นแล้ว และเขายังชี้ว่า “ไม่ใช่ว่าผมจะสามารถอนุญาตให้เยอรมันทำอะไรหรือไม่ก็ได้” พร้อมกับกล่าวต่อว่า เขาเป็นผู้ต่อต้านโครงการ นอร์ด สตรีม 2 มาตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้พบว่ารัฐบาลไบเดนได้ยกเลิกการคว่ำบาตรบริษัทและซีอีโอที่ดูแลโครงการท่อส่งก๊าซ นอร์ด สตรีม 2 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อความสัมพันธ์ทางการทูตกับเยอรมัน ส่งผลทำให้ฝั่งพรรครีพับลิกันออกมาชี้ว่า เป็นเสมือนการตบรางวัลให้กับปูติน
เอเอฟพีชี้ว่า ทั้งนี้ในการพบกันครั้งแรกระหว่างไบเดนและปูตินนั้นไม่คาดว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้น