การครองอำนาจยาวนาน 12 ปีในฐานะนายกรัฐมนตรีอิสราเอลของ เบนจามิน เนทันยาฮู สิ้นสุดลงในวันอาทิตย์ (13 มิ.ย.) หลังรัฐสภายกมือสนับสนุน "รัฐบาลใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลง" ที่นำโดย นาฟตาลี เบนเนตต์ นักการเมืองชาตินิยม ในเหตุการณ์ไม่น่าเชื่อที่ชาวอิสราเอลบางส่วนไม่เคยคาดคิดมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ด้วยที่รัฐบาลผสมที่เป็นการรวมตัวของพรรคการเมืองที่หลากหลาย ทั้งฝ่ายซ้าย กลาง ฝ่ายขวา และพรรคอาหรับ ซึ่งมีแนวคิดร่วมเพียงแค่ต้องการโค่นอำนาจของเนทันยาฮู แถมยังผ่านการลงมติไว้วางใจจากรัฐสภาอย่างเฉียดฉิว 60 ต่อ 59 มันจึงมีความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีความเปราะบางเป็นอย่างมาก
ในการปราศรัยกับรัฐสภา ก่อนเบนเนตต์ จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง เนทันยาฮู ประกาศท้ารบว่า "หากเรามีจุดหมายปลายทางคือการเป็นฝ่ายค้าน เราจะทำมันด้วยศีรษะที่ยังคงตั้งตรง(ด้วยความมีศักดิ์ศรี) จนกว่าเราจะโค่นพวกเขา ซึ่งมันจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ผู้คนคิด" เนทันยาฮูวัย 71 ปีกล่าว
รัฐบาลใหม่ถูกจัดตั้งขึ้นหลังไม่มีใครได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 มีนาคม และรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้มีแผนหลีกเลี่ยงเคลื่อนไหวในประเด็นร้อนระหว่างประเทศต่างๆ นานา ในนั้นรวมถึงนโยบายที่มีต่อปาเลสไตน์ แล้วหันมุ่งเน้นปฏิรูปภายในประเทศแทน
กระนั้น ชาวปาเลสไตน์รู้สึกเฉยๆ ต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลของอิสราเอล โดยคาดหมายว่าเบนเนตต์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งสนับสนุนการผนวกหลายพื้นที่ของเขตยึดครองเวสต์แบงก์เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จะแสวงหาวาระฝ่ายขวาแบบเดียวกับเนทันยาฮู หัวหน้าพรรคลิคุด
ในฐานะผู้นำที่ครองตำแหน่งยาวนานที่สุดของอิสราเอล เนทันยาฮูนั่้งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 2009 แต่ก่อนหน้านั้นเขาครองตำแหน่งสมัยแรกระหว่างปี 1996 ถึงปี 1999
อย่างไรก็ตาม เขาประสบความล้มเหลวซ้ำๆ ไม่อาจคว้าชัยชนะอย่างเด็ดขาดในศึกเลือกตั้ง 4 ครั้งในช่วง 2 ปีหลังสุด ในนั้นรวมถึงการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม และกำลังถูกพิจารณาคดีในข้อหาคอร์รัปชัน ซึ่งเขาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
ภายใต้ข้อตกลงรัฐบาลผสม เบนเนตต์ ชาวยิวออร์โธดอกซ์และมหาเศรษฐีโทรคมนาคมวัย 49 ปี จะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วง 2 ปีแรกในวาระ 4 ปี โดยระหว่างนี้ ยาอีร์ ลาปิด นักการเมืองแนวทางสายกลางจะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนทั้งคู่จะแลกเปลี่ยนตำแหน่งกันในช่วง 2 ปีหลัง
ด้วยที่ยามินา พรรคการเมืองขวาจัดของเขาคว้าเก้าอี้ในรัฐสภาได้เพียงแค่ 6 ที่นั่งจากทั้งหมด 120 ที่นั่งในศึกเลือกตั้งครั้งล่าสุด การก้าวขึ้นสู่อำนานของเบนเนตต์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่เต็มไปด้วยเหล่าพรรคการเมืองหลากหลายอุดมการณ์ จึงเป็นเรื่องน่าตื่นตะลึงทางการเมืองไม่น้อย
ท่ามกลางเสียงตะโกนไม่หยุดว่า "หลอกลวง" และ "น่าละอาย" ของบรรดาผู้ภักดีต่อเนทันยาฮูในรัฐสภา เบนเนตต์กล่าวขอบคุณอดีตนายกรัฐมนตรี "ต่อการรับใช้ชาติที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความสำเร็จ ในนามของรัฐอิสราเอล"
เบนเนตต์ เป็นบุตรชายคนย้ายถิ่นฐานมาจากอเมริกา เป็นอดีตสมาชิกหน่วยคอมมานโดขั้นหัวกะทิในกองทัพอิสราเอล และทำเงินหลายล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
เขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีเศรษฐกิจและรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการภายใต้เนทันยาฮู แต่ในทางการเมืองนั้นมีความเป็นฝ่ายขวามากกว่าผู้นำอิสราเอลคนปัจจุบันในบางประเด็น โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตาม เขามีแนวคิดสายกลางมากกว่า ในประเด็นทางสังคมต่างๆ อย่างเช่นสิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีหลากหลายทางเพศ
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความยินดีกับเบนเนตต์ รวมถึงราปิดและคนอื่นๆ ที่เหลือในรัฐบาลใหม่ พร้อมบอกว่าเขาตั้งตาคอยทำงานร่วมกับเบนเนตต์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ใกล้ชิดและยืนยงระหว่างสองประเทศ
(ที่มา : รอยเตอร์ส)