พันธมิตรพรรคการเมืองต่างๆของอิสราเอลแถลงเมื่อช่วงค่ำคืนวันพุธ(2มิ.ย.) ว่าพวกเขาบรรลุข้อตกลงกันในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เปิดทาง เบจามิน เนทันยาฮู พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากนั่งเก้าอี้ตัวนี้มาอย่างยาวนาน
ยาอีร์ ลาปิด ผู้นำพรรคเยช อทิด ซึ่งมีแนวทางสายกลาง แจ้งกับประธานาธิบดีริวเวน ริฟลิน ว่าเขาสามารถรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลผสม ไม่ถึงชั่วโมงก่อนถึงเส้นตายช่วงเที่ยงคืน
แม้ ลาปิด จะถือครองอาณัติสำหรับจัดตั้งรัฐบาลภายใต้ข้อตกลง แต่ นาฟตาลี เบนเนตต์ ผู้นำพรรคยามินา พรรคฝ่ายขวาขนาดเล็ก ซึ่งเป็นคนสำคัญในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล จะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วง 2 ปีแรกในวาระ 4 ปี โดยระหว่างนี้ ลาปิด จะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ก่อนทั้งคู่จะแลกเปลี่ยนตำแหน่งกันในช่วง 2 ปีหลัง
ลาปิด ระบุในถ้อยแถลงว่า "รัฐบาลจะทำงานรับใช้ประชาชนอิสราเอลทุกหมู่เหล่า ในนั้นรวมถึงคนที่ไม่ได้สนับสนุนรัฐบาล จะให้ความเคารพผู้เห็นต่าง และจะทำทุกอย่างในขอบเขตอำนาจ สร้างความสามัคคีในทุกภาคส่วนของสังคมอิสราเอล"
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นเหตุการณ์สั่นสะเทือนในทางการเมืองของอิสราเอล และหากรัฐบาลสมานฉันท์ชุดนี้สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง นั่นจะเท่ากับเป็นการสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเนทันยาฮู ซึ่งครองเก้าอี้ตัวนี้มานานถึง 12 ปี
เวลานี้ข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลผสมจำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอิสาเอล ก่อนที่รัฐบาลใหม่และนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
รัฐบาลใหม่จะประกอบไปด้วยพรรคต่างๆทั่วทุกฝ่ายการเมืองของอิสราเอล ตั้งแต่ฝ่ายขวาอย่างพรรคลามินาของเบนเนตต์ ไปจนถึงพรรคเมเรตซ์ พรรคฝ่ายซ้าย
ในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ พรรคยูไนเต็ด อาหรับ พรรคการเมืองอิสลามิสต์ขนาดเล็ก ก็ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลเช่นกัน ถือเป็นพรรคการเมืองอาหรับ-อิสราเอลพรรคแรกที่ได้เข้าร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ดูเหมือนว่าพรรคยูไนเต็ด อาหรับ จะไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรี แต่จะต่อรองกับรัฐบาลผสม ในประเด็นต่างๆที่มีความสำคัญกับพวกเขา
เบนเนตต์ เป็นบุตรชายคนย้ายถิ่นฐานอเมริกา เป็นอดีตสมาชิกหน่วยคอมมานโดขั้นหัวกะทิในกองทัพอิสราเอล และทำเงินหลายล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
เขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีเศรษฐกิจและรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการภายใต้เนทันยาฮู แต่ในทางการเมืองนั้นมีความเป็นฝ่ายขวามากกว่าผู้นำอิสราเอลคนปัจจุบันในบางประเด็น โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตามเขามีแนวคิดสายกลางมากกว่า ในประเด็นทางสังคมต่างๆอย่างเช่นสิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีหลากหลายทางเพศ
ครั้งหนึ่ง เบนเนตต์ เป็นผู้นำองค์กรผู้ตั้งถิ่นฐานในเวสต์แบงค์ และเคยกล่าวว่าไม่เชื่อในแนวทางแก้ไขปัญหาแบบ 2 รัฐ (Two-state solution)ที่จะจัดตั้งรัฐสำหรับชาวปาเลสไตน์ในเวสต์แบงค์และฉนวนกาซา
(ที่มา:ซีเอ็นเอ็น)