อิสราเอลและฮามาสจะหยุดยิงทั่วชายแดนฉนวนกาซาตั้งแต่เวลา 02.00 น.ของวันศุกร์ (ตรงกับเมืองไทย 06.00 น.) เป็นต้นไป โดยอียิปต์จะทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตุการณ์ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าการสู้รบอันดุเดือดในรอบหลายปีระหว่างสองฝ่ายอาจสิ้นสุดลงหลังเปิดศึกนองเลือดมาเกือบ 2 สัปดาห์ ตามคำกล่าวอ้างของฝ่ายอิสลามิสต์ของปาเลสไตน์และสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐอียิปต์
ทำเนียบนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ระบุว่า คณะรัฐมนตรีของเขาลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์เห็นด้วยกับข้อตกลงหยุดยิงร่วมฉนวนกาซาแบบไม่มีเงื่อนไขที่เสนอโดยอียิปต์ แต่บอกว่ายังไม่เห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับช่วงเวลาของการบังคับใช้
ภายในไม่กี่นาทีหลังคำแถลงในการนับถอยหลังสู่ข้อตกลงหยุดยิง ทั้งสองฝ่ายยิงตอบโต้กันไปมากอีกครั้ง เสียงไซเรนเตือนจรวดกำลังพุ่งเข้ามาดังระงมทั่วชุมชนต่างๆ ตามแนวชายแดนของอิสราเอล ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรอยเตอร์สรายหนึ่งรายงานว่าได้ยินเสียงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในกาซาเช่นกัน
ยังไม่มีรายงานความสูญเสียในเหตุตอบโต้ล่าสุด
ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์นองเลือดจากทั่วโลก ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องเนทันยาฮูเมื่อวันพุธ (19 พ.ค.) ให้หาทางลดความรุุนแรง ส่วนอียิปต์ กาตาร์ และสหประชาชาติก็หาทางเป็นคนกลางยุติความขัดแย้ง
ฮามาสบอกว่าการหยุดยิงจะเป็นข้อตกลงร่วมกันและเกิดขึ้นพร้อมกัน "ผู้ต้านทานปาเลสไตน์จะยึดถือข้อตกลงนี้ตราบใดที่พวกผู้รุกรานยึดครอง (อิสราเอล) ทำแบบเดียวกัน "ทาเฮอร์ อัล-โนโน" ที่ปรึกษาด้านสื่อสารมวลชนของ อิสมาอิล ฮานิเยห์ หัวหน้ากลุ่มฮามาสบอกกับรอยเตอร์ส
อย่างไรก็ตาม โฆษกฝ่ายติดอาวุธเตือนว่าจรวดของฮามาสจะพุ่งไปถึงอิสราเอล หากว่าอิสราเอลละเมิดข้อตกลงหรือโจมตีฉนวนกาซาก่อนถึงเวลาบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิง
ประธานาธิบดี อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซิ แห่งอียิปต์ ออกคำสั่งให้ผู้แทนทูตด้านความมั่นคง 2 คนเดินทางไปยังอิสราเอลและดินแดนปาเลสไตน์ หาทางทำให้แต่ละฝ่ายยึดถือข้อตกลงหยุดยิง สื่อมวลชนแห่งรัฐอิยิปต์รายงาน
ก่อนข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ พวกฮามาสและพันธมิตรญิฮาดกลับมายิงจรวดเข้าใส่อิสราเอลอีกรอบหลังหยุดไปนาน 8 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี (20 พ.ค.) ในขณะที่อิสราเอลก็ระดมยิงด้วยปืนใหญ่ที่พวกเขาบอกว่าเป็นการเล็งเป้าหมายทำลายศักยภาพด้านการทหารของกลุ่มติดอาวุธฮามาส เพื่อยับยั้งเหตุเผชิญหน้าในอนาคตหากความขัดแย้งในปัจจุบันสิ้นสุดลง
นับตั้งแต่การสู้รบปะทะขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในกาซาเผยว่ามีชาวปาเลสไตน์ 232 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 65 คน เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,900 คนในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ส่วนฝั่งอิสราเอล ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 12 ราย และประชาชนอีกหลายร้อยคนได้รับบาดเจ็บในเหตุถูกโจมตีด้วยจรวด ซึ่งสร้างความตื่นตระหนก ผู้คนต้องวิ่งหนีหาที่หลบภัย
อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการทางอากาศถล่มดินแดนฉนวนกาซาของปาเลสไตน์ซึ่งอยู่ในการปกครองของกลุ่มฮามาสมาตั้งแต่วันที่ 10 เดือนนี้ หลังจากกลุ่มฮามาสยิงจรวดตอบโต้เหตุปะทะระหว่างชาวปาเลสไตน์กับตำรวจยิวในเยรูซาเลมตะวันออกสืบเนื่องจากความพยายามของอิสราเอลที่จะขับไล่ชาวปาเลสไตน์เพื่อเอาพื้นที่ให้แก่ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิว รวมทั้งการที่ตำรวจอิสราเอลเข้าไปและยิงระเบิดเสียงภายในมัสยิดอัล-อักซอ
ขณะเดียวกัน ภายในดินแดนของอิสราเอลเองได้เกิดปัญหาความรุนแรงภายในระหว่างคนยิวกับคนอิสราเอลเชื้อสายอาหรับ เช่นเดียวกับที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในดินแดนเวสต์แบงก์ ซึ่งเป็นอีกดินแดนหนึ่งของปาเลสไตน์ที่ถูกกองทัพอิสราเอลยึดครองอยู่ โดยมีรายงานว่ารัฐยิวได้สังหารชาวปาเลสไตน์ไปหลายสิบคนนับจากวันที่ 10 ที่ผ่านมา
สหประชาชาติเผยว่า ทอร์ เวนเนสแลนด์ ทูตตะวันออกกลาง อยู่ในกาตาร์ในวันพฤหัสบดี (20 พ.ค.) ส่วนหนึ่งในความพยายามผลักดันข้อตกลงหยุดยิง ส่วนไบเดนได้หารือประเด็นกาซากับซิซิ และทำเนียบขาวระบุรายงานข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าของข้อตกลงหยุดยิงเป็นเรื่องน่ายินดี
(ที่มา : รอยเตอร์ส)