xs
xsm
sm
md
lg

ยอดผู้เสียชีวิตอินเดียทะลุเกิน 300,000 คน สื่อมะกันปลุกผีข่าวไวรัสหลุดจากแล็บอู่ฮั่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ญาติของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 นิ่งสงบภายหลังเสร็จสิ้นพิธีการสุดท้าย ณ ฌาปนกิจสถานแห่งหนึ่งซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเผาศพ ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย วันจันทร์ (24 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ทางการแดนภารตะแจ้งว่า ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากโรคระบาดครั้งนี้ทะลุหลัก 3 แสนคนแล้ว
เหยื่อโควิดรายวันอินเดียยังพุ่งกว่า 4,400 คน ส่งยอดรวมทะลุหลัก 300,000 คนแล้ว ด้านญี่ปุ่นเพิ่งตื่นตัวจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนใหญ่ในโตเกียวและโอซากา ขณะมหกรรมโอลิมปิกกำลังจะเปิดฉากในสองเดือนข้างหน้า ด้านหนังสือพิมพ์แถวหน้าของอเมริการายงานโดยอ้างข่าวกรองรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า มีนักวิจัย 3 คนของสถาบันไวรัสอู่ฮั่นเข้าโรงพยาบาล ก่อนที่จีนจะเปิดเผยวิกฤตไวรัสโคโรนาครั้งแรกเมื่อปลายปี 2019

ทั้งจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อรายวันจากโรคโควิด-19 ในอินเดีย แข่งกันเพิ่มขึ้นทำสถิติตลอดไม่กี่สัปดาห์มานี้ และกระทรวงสาธารณสุขรายงานเมื่อวันจันทร์ (24 พ.ค.) ถึงสถานการณ์รอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ว่า มีผู้เสียชีวิต 4,454 คน ถือเป็นสถิติสูงสุดอันดับ 2 นับจากเมื่อวันพุธ (19) ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 4,529 คน

จากตัวเลขล่าสุดนี้ ทำให้ยอดสะสมผู้เสียชีวิตของอินเดียพุ่งทะลุหลัก 300,000 คน ไปอยู่ที่ 303,720 คน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมก็เพิ่มเป็นกว่า 26.7 ล้านคน จำนวนคนตายนั้นพุ่งขึ้นฮวบฮาบในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นคือสูงขึ้นถึงราว 50,000 คน

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า ตัวเลขจริงๆ น่าจะสูงกว่านี้มาก โดยเฉพาะในขณะนี้ที่ไวรัสโคโรนาลุกลามจากเมืองใหญ่ไปถึงชนบทห่างไกล ซึ่งเป็นถิ่นที่อาศัยของประชากรส่วนใหญ่ของอินเดียซึ่งมีจำนวนจากทั้งหมด 1,300 ล้านคน และระบบสาธารณสุขตลอดจนการจัดเก็บข้อมูล ยิ่งด้อยประสิทธิภาพกว่าตามเมืองใหญ่

อินเดียซึ่งเป็นประเทศที่มีความสามารถในการผลิตวัคซีนมากที่สุดในโลก เวลานี้กลับฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนยังไม่ถึง 200 ล้านโดส ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดโครงการเพื่อต่อสู้กับโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ไม่เฉพาะอินเดีย ชาติใหญ่ในเอเชียอีกรายหนึ่งคือญี่ปุ่น ก็ถูกวิจารณ์ว่าเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนด้วยความล่าช้าอืดอาด ทั้งนี้ญี่ปุ่นเพิ่มประกาศในวันจันทร์ (24) เรื่องจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ในที่โตเกียวและในเมืองโอซากา โดยคาดว่าะฉีดได้วันละหลายพันคน เริ่มต้นจากประชากรสูงวัยก่อน ทั้งนี้ ถือเป็นความพยายามของรัฐบาลในการผลักดันโครงการนี้ก่อนที่โตเกียวโอลิมปิกจะเริ่มขึ้นในอีก 2 เดือน

จากข้อมูลล่าสุดระบุว่า ญี่ปุ่นเพิ่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนเพียง 2% ของประชากรทั้งหมด 125 ล้านคน เทียบกับราว 40% ในอเมริกา และ 15% ในฝรั่งเศส

ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันอาทิตย์ (23) หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลของอเมริกา รายงานโดยอ้างอิงข่าวกรองของทางการสหรัฐฯที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน ระบุว่า นักวิจัย 3 คนของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการคล้ายๆ กับติดเชื้อโควิด เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019 หรือไม่นานก่อนที่จีนจะเปิดเผยว่า พบการระบาดของไวรัสโคโรนาครั้งแรกในเมืองดังกล่าว

อย่างไรก็ดี วอลล์สตรีทเจอร์นัล บอกว่า ทั้งเจ้าหน้าที่ปัจจุบันและอดีตเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯซึ่งทราบเกี่ยวกับรายงานข่าวกรองนี้ ได้แสดงความเห็นต่างๆ กันหลายหลาก เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของหลักฐานสนับสนุนรายงานฉบับนี้ โดยมีคนหนึ่งกล่าวว่า จำเป็นต้องมีการสอบสวนและขอความร่วมมือเพิ่มเติม

กระนั้น รายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัลที่ให้รายละเอียดใหม่เกี่ยวกับจำนวนนักวิจัยที่ป่วย ช่วงเวลาที่ป่วย และการไปโรงพยาบาล อาจเพิ่มน้ำหนักข้อเรียกร้องให้มีการขยายผลการสอบสวนว่า ไวรัสโคโรนาหลุดจากห้องปฏิบัติการในเมืองอู่ฮั่นหรือไม่

รายงานชิ้นนี้ยังออกมาก่อนที่หน่วยงานที่มีอำนาจตัดสินใจขององค์การอนามัยโลก (WHO) จะประชุมกันซึ่งคาดว่า จะหารือเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปในการสอบสวนหาต้นตอโควิด-19

ด้านโฆษกหญิงของสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล แต่กล่าวว่า คณะบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังคงมีคำถามจริงจังเกี่ยวกับเหตุการณ์ช่วงแรกๆ ที่โควิดระบาด ซึ่งรวมถึงที่มาของไวรัสภายในจีน และเสริมว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังร่วมกับ WHO และสมาชิกชาติอื่นๆ สนับสนุนการประเมินทฤษฎีที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับที่มาของไวรัสโคโรนาภายใต้การนำของผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ และโดยปราศจากการแทรกแซงหรือประเด็นทางการเมือง

ทั้งนี้ เมื่อเดือนมีนาคม อเมริกา นอร์เวย์ แคนาดา อังกฤษ และประเทศอื่นๆ แสดงความกังวลเกี่ยวกับงานศึกษาต้นตอโควิดที่นำโดยสหรัฐฯ และเรียกร้องให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมและการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับคน สัตว์ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่วงที่ไวรัสระบาดแรกๆ ทั้งหมด โดยวอชิงตันต้องการมั่นใจว่า จีนให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่และโปร่งใส

ทว่า วันอาทิตย์ กระทรวงการต่างประเทศจีนออกคำแถลงโดยตั้งข้อสังเกตว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญที่นำโด WHO สรุปแล้วว่า มีความเป็นไปได้น้อยมากๆ ที่ไวรัสจะหลุดจากห้องปฏิบัติการอู่ฮั่นหลังจากเดินทางไปยังสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นในเดือนกุมภาพันธ์ และว่า อเมริกายังไม่เลิกโฆษณาชวนเชื่อทฤษฎีไวรัสหลุดจากแล็บอู่ฮั่นที่เริ่มต้นขึ้นในสมัยอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมแสดงความกังวลกับแหล่งที่มาของรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)

สตรีที่สวมหน้ากากป้องกันใบหน้าเพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19  เดินผ่านแผ่นภาพแมว ที่เมืองเกซอนซิตี ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันจันทร์ (24 พ.ค.) ทั้งนี้ฟิลิปปินส์ซึ่งยังเกิดการระบาดหนักของไวรัสโคโรนา ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดรวมแล้วมากกว่า 8 ล้านโดส นับตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทว่าพวกเจ้าหน้าที่ระบุว่าถูกนำไปฉีดยังไม่ถึงครึ่ง โดยนอกจากปัญหาอย่างอื่นๆ แล้ว ยังมาจากการที่ประชาชนลังเลไม่มั่นใจ และลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนกันน้อย


กำลังโหลดความคิดเห็น