ราคาน้ำมันขยับลงในวันอังคาร (18 พ.ค.) หลังสื่อมวลชนรายงานว่า สหรัฐฯและอิหร่านมีความคืบหน้าในการฟื้นข้อตกลงจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน ซึ่งอาจช่วยป้อนอุปทานเข้าสู่ตลาดเพิ่มเติม ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบและทองคำปรับขึ้นเล็กน้อย จากข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์อเมริกา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 78 เซนต์ ปิดที่ 65.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 75 เซนต์ ปิดที่ 68.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันขยับลง หลังมีรายงาน มิคฮาอิล อุลยานอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ เปิดเผยว่า สหรัฐฯและอิหร่านมีความคืบหน้าอย่างมาก ในความพยายามฟื้นข้อตกลงจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันปรับลดไม่มากนัก หลังเขาทวีตว่าคณะเจรจาต้องการเวลาสำหรับความเห็นพ้องต้องกันในขั้นสุดท้าย
หากสหรัฐฯยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ประเทศแห่งนี้จะเพิ่มการส่งออกน้ำมัน ซึ่งจะเพิ่มอุปทานพลังงานเข้าสู่ตลาดโลก
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร (18 พ.ค.) ปิดลบ ตามแรงฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอ ซึ่งกลบข่าวแง่บวกเกี่ยวกับรายงานผลประกกอบการของวอลมาร์ทและโฮมดีโปท์
ดาวโจนส์ ลดลง 267.13 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,060.66 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 35.46 จุด (0.85 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,127.83 จุด แนสแดค ลดลง 75.41 จุด (0.56 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,303.64 จุด
ดัชนีทั้ง 3 เปิดตลาดในแดนบวก หลังวอลมาร์ท ห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลก ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดทั้งปี และ โฮมดีโปท์ รายงานยอดขายรายไตรมาสของบางสาขา สูงกว่าที่คาดหมายไว้
อย่างไรก็ตาม ตลาดถูกฉุดจากข้อมูลล่าสุดที่พบว่าตัวเลขการก่อสร้างบ้านในสหรัฐฯลดลงเกินคาดในเดือนเมษายน ซึ่งน่าจะได้รับผลกระทบจากราคาไม้และวัสดุอื่นๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น
รายงานตัวเลขก่อสร้างบ้าน ก่อความกังวลแก่นักลงทุน ผลักให้หันถือครองทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันอังคาร (18 พ.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ ปิดที่ 1,868.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา: รอยเตอร์)