อิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มฉนวนกาซาในวันเสาร์ (15 พ.ค.) ทำให้สมาชิกครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งเสียชีวิต 10 ราย ทำลายอาคารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งของสื่อมวลชนต่างประเทศ ส่วนนักรบปาเลสไตน์รัวยิงจรวดตอบโต้กลับเป็นชุด
ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 6 แห่งความเป็นปรปักษ์กันระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ซึ่งปาเลสไตน์เผยว่านับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้น ทางฝั่งของพวกเขามีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาแล้วอย่างน้อย 145 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 41 คน ส่วนอิสราเอลรายงานมีผู้เสียชีวิต 10 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 2 คน
ในระหว่างที่ฝูงบินรบของอิสราเอลปูพรมถล่มที่ตั้งหลายแห่งในฉนวนกาซา ซึ่งมีพลเรือนพักอาศัยอยู่หนาแน่นนั้น อีกด้านหนึ่งพวกผู้ประท้วงปาเลสไตน์ได้ปะทะกับกองกำลังอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์เช่นกัน
รายงานข่าวระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเที่ยวหนึ่งถล่มอาคาร 3 ชั้นในค่ายอพยพชาทิ ส่งผลให้สมาชิกครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งเสียชีวิต 10 คน ประกอบด้วย คุณแม่ 2 ราย และลูกๆ ของพวกเธอ 8 คน แต่กองทัพอิสราเอลอ้างว่าอาคารดังกล่าวเป็นฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส
ปาเลสไตน์ตอบโต้ด้วยการยิงจรวดเข้าใส่อิสราเอลเป็นชุด ส่งผลให้มีชายคนหนึ่งเสียชีวิตใกล้เทลอาวีฟ
นอกจากอาคารดังกล่าวแล้ว เปลวไฟยังพวยพุ่งขึ้นจากซากตึกอีกแห่งในฉนวนกาซาในช่วงบ่ายวันเสาร์ (15 พ.ค.) หลังกองทัพอากาศอิสราเอลโจมตีอาคาร 13 ชั้นแห่งนี้ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักข่าวอัลญะซีเราะห์ของกาตาร์ และสำนักข่าวเอพี หลังแจ้งเตือนให้อพยพ
“มันชัดเจนว่าพวกที่กำลังก่อสงครามนี้ไม่ใช่แค่ต้องการก่อความเสียหายในวงกว้างและเข่นฆ่าชีวิต แต่ยังต้องการปิดปากสื่อมวลชนที่เป็นสักขีพยาน บันทึกภาพเหตุการณ์และรายงานความจริง” วาลิด อัล โอมาริ หัวหน้าสำนักงานเยรูซาเลมของอัลญะซีเราะห์บอกกับเอเอฟพี ส่วน แกรี พรูอิตต์ ประธานและซีอีโอของเอพี ระบุว่าเขาช็อกเป็นอย่างมากต่อเหตุโจมตีครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล บอกกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ว่า อิสราเอลทำอย่างสุดความสามารถแล้วในการปกป้องชีวิตพลเรือนในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มฉนวนกาซา “ข้อพิสูจน์คืออาคารต่างๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของพวกก่อการร้าย ได้มีการเคลียร์คนไม่เกี่ยวข้องล่วงหน้าก่อนถูกโจมตี”
กระนั้น จาวาด เมห์ดี เจ้าของอาคารจาวาล ทาวเวอร์ ระบุเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอิสราเอลแจ้งให้เขาอพยพออกจากตึกล่วงหน้าแค่ 1 ชั่วโมง
อิสราเอลอ้างว่าสายลับข่าวกรองทางทหารของฮามาส ผู้ปกครองฉนวนกาซา อยู่ในอาคารดังกล่าวเช่นกัน
ปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นแม้ก่อนหน้านี้ทำเนียบขาวได้บอกกับฝั่งอิสราเอลว่า “ความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนอิสระคือความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง”
การโจมตีทางอากาศและยิงปืนใหญ่ถล่มกาซาของอิสราเอลที่เริ่มมาตั้งแต่วันจันทร์ (10 พ.ค.) เข่นฆ่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 145 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 41 คน และบาดเจ็บ 1,100 ราย ส่วนกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ยิงตอบโต้ด้วยจรวดเข้าใส่อิสราเอลอย่างน้อยๆ 2,300 ลูก สังหารผู้คนไป 10 ราย ในนั้นรวมถึงเด็กคนหนึ่งและทหารหนึ่งนาย และมีชาวอิสราเอลได้รับบาดเจ็บ 560 คน
ทั้งนี้ ความสูญเสียทางฝั่งอิสราเอลค่อนข้างน้อย เพราะว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของพวกเขาสามารถสกัดจรวดของพวกฮามาสไว้ได้เป็นจำนวนมาก
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า Hady Amr รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายกิจการอิสราเอล-ปาเลสไตน์ จะพูดคุยกับพวกผู้นำอิสราเอลในวันอาทิตย์ (16 พ.ค.) ก่อนพบปะกับเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์หลังจากนั้นเพื่อแสวงหา "ความสงบที่ยั่งยืน"
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีกำหนดหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงอิสราเอล-ปาเลสไตน์ในวันอาทิตย์ (16 พ.ค.) ขณะที่สหรัฐฯ ซึ่งขัดขวางการประชุมซึ่งเดิมกำหนดไว้ในวันศุกร์ (14 พ.ค.) ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอที่จะหยุดสถานการณ์ความรุนแรง
พวกผู้ประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ชุมนุมกันทั่วโลก ในนั้นรวมถึงกรุงปารีสของฝรั่งเศส ก่อนที่ตำรวจจะฉีดน้ำสลายการชุมนุม
อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศ หลังจากฮามาสยิงจรวดใส่เยรูซาเลมและเทลอาวีฟเมื่อวันจันทร์ (10 พ.ค.) เพื่อตอบโต้ที่ตำรวจอิสราเอลปะทะกับชาวปาเลสไตน์ใกล้มัสยิดอัล-อักซอในเยรูซาเลมตะวันออก ระหว่างที่ชาวปาเลสไตน์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมุสลิมถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอน
นอกจากอิสราเอลกับปาเลสไตน์มีการโต้ตอบกันด้วยจรวดและการโจมตีทางอากาศแล้ว ภายในอิสราเอลเองยังเกิดเหตุรุนแรงในหลายเมือง หลังจากชนกลุ่มน้อยชาวอาหรับบางส่วนออกมาประท้วงเพื่อให้การสนับสนุนปาเลสไตน์ กระตุ้นให้กองกำลังด้านความมั่นคงให้กำลังเข้าปราบปราม
สหประชาชาติเปิดเผยว่า มีชาวกาซาราว 10,000 คนที่หลบหนีออกจากชายแดนติดกับอิสาเอล ด้วยความหวั่นกลัวว่าอิสราเอลจะเปิดฉากจู่โจมทางภาคพื้น
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์ส)