ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมสำคัญของโลก (จี7) ตำหนิว่าเครมลินอาฆาตมาดร้าย ส่วนปักกิ่งก็กลั่นแกล้งรังแก แต่นอกจากถ้อยแถลงเหล่านี้ พวกเขาก็แทบไม่ได้ออกมาตรการรูปธรรมใดๆ เลย นอกจากประกาศหนุนหลังไต้หวันและยูเครน รวมทั้งให้สัญญาสนับสนุนทางการเงินแก่ “โคแว็กซ์” แต่ไม่มีการอัดฉีดเม็ดเงินอย่างฉับพลันทันทีเพื่อยกระดับการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของชาติยากจนทั้งหลาย
ในคำแถลงปิดการประชุม 2 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลอนดอนเป็นเวลา 2 วัน เมื่อวันพุธ (5 พ.ค.) รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มจี7 ระบุว่า รัสเซียพยายามบ่อนทำลายประชาธิปไตยและคุกคามยูเครน ขณะที่จีนละเมิดสิทธิมนุษยชนในมณฑลซินเจียงและทิเบต อีกทั้งยังปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง และใช้อิทธิพลทางเศรษฐกิจรังแกชาติอื่น
อย่างไรก็ตาม คำแถลงแทบไม่ได้ระบุถึงมาตรการที่เป็นรูปธรรมที่อาจสร้างความกังวลใจให้แก่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย แต่อย่างใด
จี7 ระบุเพียงว่า จะร่วมกันหาทางหยุดยั้งนโยบายเศรษฐกิจแบบบีบบังคับของปักกิ่ง และต่อต้านการบิดเบือนข้อมูลของมอสโก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างภาพว่า ตะวันตกเป็นกลุ่มพันธมิตรที่มีเครือข่ายกว้างขวางมากกว่าแค่ชาติสมาชิกจี7 เท่านั้น
รัสเซียนั้นปฏิเสธว่า ไม่ได้เกะกะระรานประเทศอื่น แต่ตะวันตกเองต่างหากที่ต่อต้านรัสเซียขึ้นสมอง ด้านจีนโต้ว่า ตะวันตกคือผู้ที่ข่มเหงรังแกชาติอื่น ซ้ำผู้นำยังคงมีแนวคิดแบบหลังยุคจักรวรรดินิยมที่พวกเขารู้สึกกันว่าตัวเองสามารถทำตัวเป็นตำรวจโลกได้
ทั้งนี้ ความเจริญรุ่งเรืองของจีนทั้งในด้านเศรษฐกิจและการทหารตลอดช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับการล่มสลายของสหภาพโซเวียตซึ่งทำให้สงครามเย็นปิดฉากลง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มีเศรษฐกิจและการทหารที่ยิ่งใหญ่กว่า แต่ตะวันตกกลับไม่สามารถรับมือจีนหรือรัสเซียอย่างมีประสิทธิภาพ
คำแถลงจี7 สำทับว่า ชาติสมาชิกจะร่วมกันส่งเสริมเศรษฐกิจโลกเพื่อให้สามารถเผชิญกับแนวทางปฏิบัติและนโยบายเศรษฐกิจแบบบีบบังคับตามอำเภอใจของจีน แต่ทิ้งท้ายว่า พร้อมให้โอกาสปักกิ่งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และความมั่งคั่งของภูมิภาคและโลก
จี7 ยังประกาศสนับสนุนให้ไต้หวัน เข้าร่วมการประชุมองค์การอนามัยโลก (WHO) และสภาสาธารณสุขโลก พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับมาตรการฝ่ายเดียวที่อาจทำให้สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันตึงเครียด
ทั้งนี้ จีนมองว่า ไต้หวันเป็นมณฑลขบถของตน และต่อต้านการยอมรับให้ไทเปสามารถดำเนินการใดๆ อย่างเป็นทางการในระดับระหว่างประเทศ
ในส่วนของรัสเซีย แม้ จี7 ประกาศสนับสนุนยูเครน แต่ก็เพียงแสดงความกังวลอย่างลึกซึ้งต่อพฤติกรรมที่ไร้ความรับผิดชอบและบ่อนทำลายเสถียรภาพของแดนหมีขาว ซึ่งรวมถึงการสะสมกำลังจำนวนมากบริเวณชายแดนติดกับยูเครนและการเข้าผนวกไครเมียอย่างผิดกฎหมาย การดำเนินกิจกรรมประสงค์ร้ายเพื่อบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยของชาติอื่นๆ กิจกรรมทางไซเบอร์ที่มีเจตนาร้าย และการบิดเบือนข้อมูล
สำหรับวิกฤตโรคระบาดใหญ่โควิด-19นั้น จี7 ประกาศจะร่วมกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มกำลังผลิตวัคซีนโควิด-19 อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาและวินิจฉัย แต่ไม่ได้เรียกร้องให้ระงับสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเรื่องวัคซีนของพวกบริษัทยายักษ์ใหญ่ เช่นเดียวกับที่คำแถลง จี7 ให้สัญญาสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการแบ่งปันวัคซีน “โคแว็กซ์” ซึ่งมุ่งช่วยให้ประเทศยากจนเข้าถึงวัคซีน แต่ก็ไม่ได้ประกาศอัดฉีดเงินสนับสนุนเพื่อยกระดับการเข้าถึงวัคซีนของประเทศยากจนทั้งหลายในทันที
คำแถลงจี7 ยังระบุว่า พร้อมดำเนินการเพิ่มเติมกับรัฐบาลทหารพม่า รวมทั้งเรียกร้องให้อิหร่านปล่อยชาวต่างชาติและผู้ถือสองสัญชาติที่ถูกจองจำอยู่ในคุก
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)