ผู้คนในกรุงนิวเดลีต้องยอมใช้วิธีเผาหมู่กลางแจ้งเพื่อจัดการศพของญาติพี่น้องที่สูญเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 หลังจากที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อโรคร้ายนี้ในแต่ละวัน ได้พุ่งทะยานมหาศาล มากมายกระทั่งว่าการรอคิวที่จะทำการเผาร่างของเหยื่อโควิด-19 ในโรงเผาศพระบบไฟฟ้าอย่างเรียบร้อยนั้นนานเกินไป และในเวลาเดียวกัน ผู้ที่เชื่อในเรื่องการฝังศพก็พบว่าไม่สามารถหาพื้นที่ว่างในป่าช้าเพื่อดำเนินพิธี
กระนั้นก็ตาม การไม่ได้ใช้เตาเผาศพไฟฟ้า และต้องเผาศพกลางแจ้งหมายถึงดีมานด์ที่จะต้องมีไม้เป็นฟืนเป็นเชื้อเพลิงอย่างอเนกอนันต์ยิ่งยวด ดังนั้น ปริมาณไม้ที่จะซัปพลายเข้าไปจึงไม่เพียงพอ ทางการนิวเดลีถึงกับต้องล้มต้นไม้ในสวนสาธารณะมาป้อนแก่กระบวนการเผาศพกลางแจ้ง
ทั้งหลายทั้งปวงนี้เกิดขึ้นในยุคยามที่คนอินเดียล้มป่วยด้วยโรคโควิด-19 อย่างเกลื่อนกล่นระลอกใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังเทศกาลกุมภเมลาซึ่งมีการประกอบพิธีอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ในแม่น้ำคงคาเมื่อวันที่ 13-14 เมษายน 2021 โดยมีชาวฮินดูไม่น้อยกว่า 4 ล้านคนเข้าร่วมพิธีอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีขึ้นในห้วงเวลาอันวิกฤตคือการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ยอดผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ทะยานแรง ทำสถิติใหม่ๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ กระทั่งว่าระบบสาธารณสุขของอินเดียซึ่งย่ำแย่อยู่แล้วถึงกับล่มสลาย โรงพยาบาลส่วนใหญ่ในกรุงนิวเดลีและอีกหลายเมืองทั่วอินเดียไม่มีเตียงรับผู้ป่วยได้อีกต่อไป ทำให้ประชาชนต้องหาวิธีรักษาผู้ป่วยที่บ้าน ซึ่งหมายถึงว่าจะต้องดิ้นรนหาซื้อออกซิเจนมาใช้เอง นอกจากนั้น ยาที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด 19 ก็ล้วนแต่ขาดตลาด ประชาชนต้องยอมจ่ายเงินมหาศาลเพื่อซื้อยาในตลาดมืดซึ่งมีการโก่งราคาเกินจริงหลายเท่า อาทิ ถังออกซิเจนถูกโก่งราคาขึ้นไปถึง 50,000 รูปี จากแค่ 6,000 รูปีในช่วงปกติ
ความย่ำแย่ในระบบสาธารณสุขของอินเดียไม่ได้มีแค่เรื่องออกซิเจนและยา หากยังรวมถึงการตรวจเลือด การทำซีทีสแกน หรือเอกซเรย์ ซึ่งผู้ป่วยต้องเข้าคิวรอนาน กว่าจะรู้ผลต้องใช้เวลาหลายวัน ทำให้แพทย์ไม่สามารถประเมินอาการและรักษาผู้ป่วยได้ทันท่วงที
ด้านนอกของป่าช้าต่างๆ ที่ให้บริการเผาศพกลางแจ้งในหลายๆ มหานคร (รวมทั้งในกรุงนิวเดลีซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงที่สุดในปัจจุบันนี้) มีรถฉุกเฉินจำนวนมากจอดรอต่อคิวที่จะลำเลียงร่างไร้ลมหายใจของเหยื่อโควิด-19 ออกจากรถ ไปวางบนจุดที่จะก่อกองไม้ฟืนเพื่อทำการเผาสด ในเวลาเดียวกันหลุมฝังศพหลายเมืองพากันหมดเกลี้ยง ดังนั้น ผู้คนจึงได้เห็นเปลวเพลิงลุกโชนเผาไหม้ศพแห่งโควิด-19 สว่างเป็นแสงส้มแดงเหลืองตลอดค่ำคืนต่างๆ ในหลากหลายเมืองของอินเดีย
ยอดผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาในอินเดียที่ทะยานสูงน่าสะพรึง และขยายด้วยอัตราเร่งที่รุนแรงที่สุดในโลก ทำให้ญาติพี่น้องของผู้ป่วยต้องวิ่งวุ่นหาออกซิเจนตามท้องตลาด ซึ่งกลายเป็นสินค้าขาดตลาดเพราะถูกแย่งกันซื้ออย่างมหาศาล กระทั่งว่ากระทรวงมหาดไทยอินเดียต้องออกคำสั่งระงับการใช้ออกซิเจนในภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้มีออกซิเจนเพียงพอสำหรับใช้ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรุงนิวเดลี ซึ่งเผชิญกับวิกฤติขาดแคลนออกซิเจนทางการแพทย์ สำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19
ความพยายามดั้นด้นหาซื้อออกซิเจนมักจะไม่ประสบความสำเร็จ เอพีรายงานว่าได้พบเห็นผู้ที่เดินทางตามหาซื้อออกซิเจน ออกมาร่ำไห้อยู่ตามท้องถนน หลังได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวว่าผู้ป่วยในครอบครัวตนสิ้นลมหายใจไปในระหว่างที่รอออกซิเจนมาต่อลมหายใจ
ในรอบ 5 วันที่ผ่านมา สำนักข่าวใหญ่ๆ ของโลกออกรายงานข่าวทุกวันว่า อินเดียซึ่งมีประชากรเกือบ 1,400 ล้านคน มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันสูงเป็นประวัติการณ์ทุกวัน 5 วันรวด โดยในวันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2021 ได้สร้างสถิติสูงสุดที่ระดับ 350,179 รายต่อวัน ส่งฟลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมพรวดพราดพุ่งผ่านหลัก 17 ล้านรายแล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าประเทศอื่นเพียงประเทศเดียว คือ สหรัฐอเมริกา
สำหรับสถานการณ์การเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในอินเดียก็น่าตกใจไม่แพ้กัน โดยในรอบ 24 ชั่วโมงระหว่างวันอาทิตย์ (25) ถึง วันจันทร์ (26) สถิติหมวดนี้ทำตัวเลขสูงลิ่ว 2,812 ราย ดังนั้น ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ทั้งหมดในอินเดียแตะระดับ 195,123 ราย ตามตัวเลขของกระทรวงสาธารณสุขอินเดีย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่า ยอดตัวเลขแท้จริงน่าจะมหาศาลกว่านี้
ภาพศพที่ถูกเรียงรายจนแออัดแน่นเต็มพื้นที่ของนานาป่าช้าและเมรุทั้งปวง คือสัญลักษณ์บาดตาบาดใจให้เห็นถึงขนาดความรุนแรงของวิกฤตโรคระบาดโควิด-19
นอกจากนั้น ณ ใจกลางมหานครโภปาล เมืองเอกแห่งรัฐมัธยมประเทศ ยังเกิดดราม่าน่าสะเทือนใจสมทบ เมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องตัดทอนพิธีจัดงานศพแบบฮินดี ซึ่งเต็มไปด้วยรายละเอียดอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อกันจะว่าช่วยปลดปล่อยวิญญาณของผู้ตายให้พ้นจากวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิด
ความแออัดหนาแน่นอย่างที่สุดภายในโรงพยาบาลก็ทำให้รู้สึกสลดใจกับระบบสาธารณสุขอันย่ำแย่ของอินเดีย พื้นที่รองรับผู้ป่วยของแต่ละโรงพยาบาลล้วนแต่เต็มเอียดไม่รู้จะอัดผู้ป่วยเข้าไปวางตรงไหนอีกแล้ว
ผู้ป่วยต้องแบ่งกันนอนเตียงละ 2-3 รายในหลายภายในโรงพยาบาล
ล่าสุด นานาประเทศ เช่น อังกฤษ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ประกาศส่งความช่วยเหลือให้อินเดียทวีศักยภาพที่จะดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ออกซิเจนและเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ อาทิ เครื่องช่วยหายใจ ชุดป้องกันเชื้อโรคทั้งใบหน้า ดวงตา ศีรษะ ระบบทางเดินหายใจ มือ เท้า และร่างกาย (Personal Protection Equipment) ชุดตรวจวินิจฉัยโรคโควิด 19 แบบรู้ผลเร็ว ไปจนถึงชุดเวชภัณฑ์รักษาโรค แต่สำหรับสหรัฐอเมริกานั้นไม่มีการระบุเกี่ยวกับการบริจาควัคซีนแอสตราเซเนกาหลายสิบล้านโดสที่เก็บไว้โดยไม่ได้ใช้
ฝ่ายสาธารณสุขของอินเดียรีบเร่งหาเครื่องใช้จำเป็นต่างๆ เพิ่มเติมเข้าไปรองรับผู้ป่วยโควิด ไม่ว่าจะเป็นเตียง เครื่องช่วยหายใจ หรือออกซิเจน เพื่อเยียวยารักษาชีวิตของผู้ป่วยที่หายใจด้วยความลำบาก โอกาสนี้จึงเป็นจังหวะที่ดีที่สหรัฐฯ ออกมาแสดงน้ำใจไมตรีช่วยเหลืออินเดีย เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับอินเดีย ในยุคที่ประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน พยายามจะดึงอินเดียเป็นเสาหลักของแผนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา : เอพี รอยเตอร์ บีบีซี ซีเอ็นเอ็น)