ราคาน้ำมันปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ในวันพฤหัสบดี (15 เม.ย.) ทบวงพลังงานสากล (อีไอเอ) คาดอุปสงค์พลังงานสูงขึ้น และจากข้อมูลบวกเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปัจจัยหลังประกอบกับรายงานผลประกอบการบริษัท ดันวอลล์สตรีทพุ่งแรงทุบสถิติสูงสุดรอบใหม่ ขณะที่ทองคำทะยานปิดสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 31 เซ็นต์ ปิดที่ 63.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 36 เซ็นต์ ปิดที่ 66.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทบวงพลังงานสากลและโอเปกในสัปดาห์นี้ ปรับเพิ่มประมาณการอุปสงค์พลังงานโลกปี 2021 หนล่าสุด คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้น 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 5.95 ล้านบาร์เรลต่อวันตามลำดับ
ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก ที่ฟื้นตัวเกินคาดหมายในเดือนมีนาคม หลังชาวอเมริกันได้รับเช็กเยียวยาผลกระทบโควิด-19 เพิ่มเติม ขณะที่การฉีดวัคซีนในวงกว้างช่วยเปิดทางให้เศรษฐกิจกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง
นอกจากนี้แล้ว ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน ซึ่งปัจจัยนี้เองที่ผลักราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (15 เม.ย.) พุ่งแรงแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 30.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,766.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (15 เม.ย.) ดีดตัวแรง ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่งของบรรดาสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 305.10 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,035.99 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 45.76 จุด (1.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,170.42 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 180.92 จุด (1.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,038.76 จุด
ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 9.8% หลังชาวอเมริกันใช้จ่ายเพิ่มเติมตามร้านอาหารและสินค้ากีฬา ตกแต่งทำสวน รวมไปถึงซื้อรถ ในขณะที่การฉีดวัคซีนโควิด-19 เริ่มกระจายในวงกว้างแล้ว
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 576,000 ราย ในรอบสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 10 เมษายน โดยเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 มีนาคม 2020 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 710,000 ราย
นอกจากนี้แล้ว ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากหุ้นกลุ่มธนาคาร หลัง ซิตีกรุ๊ป และแบงก์ออฟอเมริกา เป็น 2 ธนาคารล่าสุดในบรรดาสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ที่มีกำไรรายไตรมาสเพิ่มขึ้นอย่างน้อยเท่าตัวและปล่อยเงินสำรองปริมาณมหาศาล ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว
(ที่มา : รอยเตอร์)