น้ำมันขยับขึ้นในวันอังคาร (13 เม.ย.) จากข้อมูลนำเข้าที่แข็งแกร่งของจีนและโอเปกปรับเพิ่มประมาณการอุปสงค์พลังงาน ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน ท่ามกลางสัญญาณเงินเฟ้อดีดตัวสูงขึ้น ปัจจัยนี้ผลักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ดันทองคำปิดบวก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 60.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 63.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตัวเลขการส่งออกของจีนเติบโตในอัตราที่แข็งแกร่งในเดือนมีนาคม เป็นอีกสัญญาณที่ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่อุปสงค์โลกเริ่มฟื้นตัวท่ามกลางการเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด-19 ส่วนการนำเข้าของจีน ก็พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี
ยอดนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่บรรดาโรงกลั่นทั้งหลายยกระดับการกลั่นตอบสนองต่ออุปสงค์ที่สูงขึ้น
ขณะเดียวกัน โอเปกระบุในรายงานประจำเดือน ปรับเพิ่มประมาณการอุปสงค์พลังงานโลกสำหรับปี 2021 เพิ่มจากที่ประมาณการคราวก่อน 70,000 บาร์เรล หรือ 6.6% เป็น 5.95 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร (13 เม.ย.) เมินตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปิดผสมผสาน ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน
ดาวโจนส์ ลดลง 68.13 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,677.27 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 13.60 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,141.59 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 146.10 จุด (1.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,996.10 จุด
เจ้าหน้าที่้สาธารณสุขสหรัฐฯแนะนำให้ระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จากความกังวลเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตัน ขณะที่ทางบริษัทรีบแถลงทันทีว่าจะเลื่อนการจ่ายวัคซีนในยุโรป กัดเซาะความพยายามฉีดวัคซีนทั่วโลก
หุ้นกลุ่มสายการบินและภาคอื่นๆ ที่สัมพันธ์กับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดิ่งลงหนักในช่วงต้น ก่อนฟื้นตัวกลับมาปิดลบในกรอบแคบๆ ในนั้นรวมถึงเดลต้า แอร์ไลนส์ ปิดลบ 1.2% ส่วน เอ็กซ์พีเดีย ปิดลบ 0.5%
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (13 เม.ย.) ปรับขึ้นแรง จากการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯสูงกว่าคาดหมาย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 14.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,747.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)