ราคาน้ำมันปรับขึ้นในวันจันทร์ (12 เม.ย.) จากมุมมองแง่บวกเกี่ยวกับอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐฯและกบฏฮูตียิงจรวดใส่แหล่งที่ตั้งทางพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ จับตารายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ทองคำขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 38 เซ็นต์ ปิดที่ 59.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 33 เซ็นต์ ปิดที่ 63.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบถ้วนแล้ว คิดเป็น 22% ของจำนวนประชากร ส่วนสหราชอาณาจักรฉีดวัคซีนแก่ประชาชนครบ 2 โดส คิดเป็น 11% จากการติดตามของรอยเตอร์ ส่วนประเทศอื่นๆ ก็ตามมาไม่ห่างนัก โดย ฝรั่งเศส และ เยอรมนี ฉีดวัคซีนแก่ประชาชนครบแล้ว คิดเป็นราวๆ 6%
นอกจากนี้แล้ว ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนบางส่วน หลังขบวนการเคลื่อนไหวกบฏฮูตี ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่านในเยเมน เผยว่าได้ยิงโดรน 17 ลำ และขีปนาวุธแบบทิ้งตัว 2 ลูก ถล่มเป้าหมายต่างๆ ของซาอุดีอาระเบีย ในนั้นรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดี อารัมโก ในเมืองจูบาอิลและเจดดาห์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันจันทร์ (12 เม.ย.) นักลงทุนเฝ้ารอรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบรรดาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และรายงานตัวเลขเงินเฟ้อหลักในช่วงปลายสัปดาห์
ดาวโจนส์ ลดลง 55.20 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,745.40 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.81 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,127.99 จุด แนสแดค ลดลง 50.19 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,850.00 จุด
ข้อมูลราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ประจำเดือนมีนาคม มีกำหนดเผยแพร่ในวันอังคาร (13 เม.ย.) อาจผลักผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกัน บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ในวอลล์สตรีท มีกำหนดเริ่มฤดูกาลรายงานผลประกอบการในวันพุธ (14 เม.ย.) ซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเทขายหรือเข้าซื้อหุ้นในตลาดที่เดินหน้าทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์มาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (12 เม.ย.) ปิดลบพอสมควร แตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ นักลงทุนเมินโลหะมีค่า หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 12.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,732.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)