ราคาน้ำมันขยับลงแรงในวันจันทร์ (5 เม.ย.) จากอุปทานเพิ่มขึ้นของโอเปกพลัส และอิหร่านเพิ่มกำลังผลิต สวนทางกับสัญญาณการฟื้นตัวแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลังนี้ผลักให้วอลล์สตรีททุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ทองคำปรับขึ้นเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 2.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 2.71 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
โอเปกพลัสเห็นพ้องเมื่อวันพฤหัสบดี (1 เม.ย.) ปรับเพิ่มกำลังผลิตรายเดือนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงกรกฎาคม ส่วน อิหร่าน สมาชิกโอเปก ซึ่งได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงลดกำลังผลิตโดยสมัครใจ ก็กำลังปรับเพิ่มอุปทานเช่นกัน
ส่วนอีกพัฒนาการหนึ่งซึ่งท้ายที่สุดแล้วอาจเพิ่มอุปทานพลังงาน นักลงทุนจับตาการพูดคุยทางอ้อมระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งในการเจรจารื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ 2015
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันจันทร์ (5 เม.ย.) ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเพิ่มเติมมุมมองในบวกแก่นักลงทุนเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวเปิดเศรษฐกิจ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 373.98 จุด (1.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,527.19 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 58.04 จุด (1.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,077.91 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 225.49 จุด (1.67 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,705.59 จุด
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯพุ่งขึ้นสู่ระดับ 63.7 ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 55.3 ในเดือนกุมภาพันธ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 59.0
ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐฯ และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นในเดือนมีนาคม
ข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ออกมาหลังจากเมื่อวันศุกร์ (2 เม.ย.) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของอเมริกา พุ่งขึ้น 916,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020
นักลงทุนคาดหมายว่า หุ้นวัฏจักรหรือหุ้นที่ราคาซื้อขายมีการขึ้นลงตามวัฏจักรเศรษฐกิจ จะเป็นแกนนำของตลาดท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจกำลังกลับมาเปิดอีกรอบ ด้วยเชื่อว่าหุ้นภาคพลังงาน การเงินและวัสดุน่าจะเป็นกลุ่มที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในปีนี้ อย่างไรก็ตาม การดีดตัวขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี กัดเซาะความต้องการถือครองหุุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (5 เม.ย.) ปรับขึ้นเล็กน้อย แต่การดีดตัวของตลาดทุนจำกัดความเคลื่อนไหวทางบวกของโลหะมีค่า โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ ปิดที่ 1,728.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา: รอยเตอร์)
