พนักงาน 2 คนของอพาร์ตเมนต์หรูแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก สหรัฐฯ ถูกไล่ออกจากงาน หลังถูกพบเห็นในวิดีโอกล้องวงจรปิดไม่ยอมช่วยเหลือหญิงชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่โดนทำร้ายรุนแรง ขณะเดินอยู่ตรงทางเท้าบริเวณด้านนอกของตัวอาคารเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
คำสั่งไล่ออกได้รับการยืนยันจาก บรอดสกาย ออแกไนเซชัน บริษัทผู้บริหารจัดการอาคารเมื่อวันอังคาร (6 เม.ย.) สืบเนื่องจากเหตุโจมตีซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ไม่ไกลจากจัตุรัสไทม์สแควร์
ภาพจากกล้องวงจรปิดพบเห็นพนักงานประจำประตูทางเข้ายืนดูเหตุจู่โจมทำร้ายร่างกายจากบริเวณล็อบบี้ของอาคาร เฝ้าดูเฉยๆ เป็นเวลานานกว่า 1 นาที จนกระทั่งการทำร้ายร่างกายด้วยความรุนแรงหยุดลงไปเอง พร้อมกันนั้น ในภาพวิดีโอยังพบเห็นหนึ่งในพนักงานทำการปิดประตูตึก ทั้งที่ วิลมา คาริ เหยื่อวัย 65 ปี กำลังนอนกองอยู่กับพื้นเป็นเวลานานหลายวินาทีหลังเหตุโจมตีสิ้นสุดลง
ในช่วงเวลาดังกล่าว มีชาย 2 คนที่อยู่นอกอาคารเดินตรงเข้าไปหาผู้หญิงที่ถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บหลังจากคนร้ายเดินออกไปแล้ว
คาริ อพยพมาจากฟิลิปปินส์เมื่อปลายปีก่อน กำลังเดินไปยังโบสถ์ ตอนที่เธอถูกเตะและกระทืบซ้ำๆ โดยคนร้ายเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส ในนั้นรวมถึงกระดูกเชิงกรานร้าว และต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลา 1 วัน
เบื้องต้นทางบรอดสกาย ออแกไนเซชัน สั่งพักงานพนักงานประจำประตู 2 คนระหว่างการสืบสวน และการสืบสวนสิ้นสุดลงในวันอังคาร (6 เม.ย.) ผลก็คือพนักงานทั้งสองโดนไล่ออก โทษฐานไม่ดำเนินการตามระเบียบปฏิบัติ
SEIU 32BJ สหภาพแรงงานของพนักงานประจำประตูทั้งสอง ยืนยันเช่นกันว่าทั้งคู่โดนไล่ออก แต่ปฏิเสธให้ความเห็นเพิ่มเติม ทั้งนี้ ทางสหภาพฯ เคยระบุก่อนหน้านี้ว่าพนักงานประจำประตูรอจนกว่ามือโจมตีจะเดินหนีไปแล้วถึงเดินไปดูอาการของคาริ และโบกมือให้สัญญาณเรียกรถสายตรวจคันหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง เพราะพวกเขาคิดว่าคนร้ายพกพาอาวุธมีดมาด้วย
ภาพจากกล้องวงจรปิดพบเห็นรถตำรวจคันหนึ่งเดินทางมาถึงราวๆ 1 นาที หลังจากพนักงานประจำประตูทั้งสองออกไปข้างนอก ทั้งนี้พบเห็นพนักงานทั้งสอง และพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่กับเหยื่อบนทางเท้าเป็นเวลาหลายนาที ก่อนภาพในวิดีโอจะตัดไป
แบรนดอน เอลเลียต ชายเร่ร่อนวัย 38 ปีที่ได้รับทัณฑ์บนออกจากคุก ภายหลังถูกตัดสินมีความผิดฐานฆ่าแม่ของตัวเองเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย พยายามทำร้ายร่างกาย เช่นเดียวกับอาชญากรรมจากความเกลียดชัง
เหตุโจมตีครั้งนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ล่าสุดของอาชญากรรมต่อต้านชาวเอเชียที่เพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐฯ เรียกเสียงประณามอย่างกว้างขวาง และก่อความกังวลเกี่ยวกับกรณีที่บรรดาผู้เห็นเหตุการณ์เพิกเฉยไม่ยอมให้ความช่วยเหลือเหยื่อถูกทำร้าย โดยตำรวจบอกว่าไม่มีใครโทร.แจ้ง 911 และตำรวจลาดตระเวนเพิ่งขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ หลังจากคาริถูกเล่นงานไปแล้ว
เอลิซาเบธ คาริ ลูกสาวของเหยื่อเผยว่า บุคคลรายหนึ่งซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน ซึ่งไม่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นคนช่วยเหลือด้วยการตะโกนสร้างความไขว้เขวแก่มือโจมตี คนร้ายเดินหนีไปจากคาริ มุ่งตรงไปหาผู้เห็นเหตุการณ์คนดังกล่าวที่ตะโกนใส่เขา
(ที่มา : การ์เดียน)