xs
xsm
sm
md
lg

ลุกลาม! ควบคุมตัวเด็กสหรัฐฯ วัยแค่ 15 ปี หลังปรากฏคลิปโจมตีทำร้ายคู่รักชาวเอเชีย (ชมวิดีโอ)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เด็กชายวัย 15 ปี อยู่ภายใต้การควบคุมตัวในเมืองทาโคมา รัฐวอชิงตัน สหรัฐฯ หลังปรากฏคลิปวิดีโอที่ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพบนสื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่เขากำลังทำร้ายร่างกายสามีภรรยาชาวเอเชียคู่หนึ่ง และกรมตำรวจทาโคมาระบุว่าผู้ต้องสงสัยถูกตั้งข้อกล่าวประทุษร้ายระดับ 2

ในวิดีโอพบเห็นบุคคลรายหนึ่งสวมเสื้อกันหนาวสีแดงวิ่งเข้าใส่ผู้ชายและผู้หญิงคู่หนึ่งบนถนน จากนั้นก็เหวี่ยงหมัดเข้าใส่ผู้ชาย ทำผู้หญิงร้องไห้ออกมา และมีบุคคลอีกรายยืนมองดูอยู่ ส่วนอีกคลิปเป็นภาพเหยื่อผู้ชายกำลังถูกสบถด่าสาปแช่ง และดูเหมือนจะถูกผลักหรือชก แต่ไม่เป็นที่เป็นที่ชัดเจนว่าในวิดีโอนี้เป็นมือโจมตีคนเดียวกัน หรืออาจเป็นคนอื่นที่มาจากกลุ่มเดียวกัน

เวนดี ฮัดโดว์ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ตำรวจทาโคมา เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 และมีการแจ้งความแล้วในตอนนั้น อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่ได้เชื่อมโยงการสืบสวนเข้ากับวิดีโอ จนกระทั่งสมาชิกในครอบครัวเหยื่อจำได้ว่าบุคคลลในวิดีโอนั้นเป็นญาติของพวกเขา

“ครอบครัวเห็นมันในข่าว” ฮัดโดว์กล่าว พร้อมปฏิเสธให้ข้อมูลว่าบุคคลที่บันทึกภาพวิดีโอเป็นหนึ่งในมือโจมตีหรือไม่ ระบุยังอยู่ระหว่างการสืบสวน


ฮัดโดว์ เผยต่อว่า เหยื่อไม่รู้จักมือโจมตีมาก่อน “พวกเขาไม่เคยเห็นคนกลุ่มนั้นมาก่อน ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับพวกเขามาก่อน” อัดโดว์กล่าว พร้อมเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า มันขึ้นอยู่กับสำนักงานอัยการเพียร์ซเคาน์ตี จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะฟ้องร้องคดีนี้ในฐานะอาชญากรรมจากความเกลียดชังหรือไม่

ชายชาวเกาหลีใต้รายหนึ่ง ซึ่งระบุว่า เป็นเหยื่อในวิดีโอดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับ KIRO เครือข่ายของซีเอ็นเอ็นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ว่าเขาให้อภัยมือโจมตี แต่ขณะเดียวกันก็ต้องการรับประกันว่าการใช้ความรุนแรงต่อชาวเอเชียจะถูกสืบสวนอย่างเหมาะสม

“ผมอยากเห็นเขาเป็นคนดีกว่านี้ ผมอยากให้เขารู้ว่ามันเป็นเรื่องที่แย่มาก” ชายคนดังกล่าวให้สัมภาษณ์เป็นภาษาเกาหลี

เหตุโจมตีต่อต้านคนเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันทั่วสหรัฐฯ ระหว่างวิกฤตโรคระบาดใหญ่โควิด-19 โดยในนิวยอร์ก ปี 2020 ได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดฐานก่ออาญากรรมจากความเกลียดชังชาวเอเชียทั้งสิ้น 28 ราย เพิ่มขึ้นจาก 3 คนในปี 2019 และ 2 รายในปี 2018 จากข้อมูลของกรมตำรวจนิวยอร์ก

(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น)


กำลังโหลดความคิดเห็น