เอพี/รอยเตอร์ – วันนี้(31 มี.ค)ตำรวจนิวยอร์กจับกุม แบรนดอน เอลเลียต(Brandon Elliot)วัย 38 ปีที่เคยก่อคดีฆ่าแม่ตัวเองเกือบ 20 ปีก่อนได้ถูกระบุเป็นคนร้ายที่อยู่ในกล้องวงจรปิดทำร้ายร่างกายผู้หญิงเอเชียเชื้อสายฟิลิปปินส์อายุ 65 ปีใกล้ย่านไทม์สแควร์เมื่อวันจันทร์(29 มี.ค)
เอพีรายงานวันนี้(31 มี.ค)ว่า สำนักงานตำรวจนิวยอร์กแถลงวันพุธ(31)ว่า แบรนดอน เอลเลียต (Brandon Elliot)วัย 38 ปีเป็นบุคคลที่เห็นในกล้องทีวีวงจรปิดทำร้ายร่างกายด้วยการไล่เตะหญิงชาวเอเชียเมื่อวันจันทร์(29) พวกเขากล่าวว่าเอลเลียตอาศัยอยู่ที่โรงแรมแถวนั้นที่ถูกใช้เป็นที่อาศัยสำหรับคนไร้ที่อยู่ในนิวยอร์ก
อ้างอิงจากรอยเตอร์ คนร้ายถูกจับและตั้งข้อหาในเช้าวันพุธ(31) โดยทางตำรวจได้ตามหาตัวคนร้ายมาตั้งแต่วันจันทร์(29)ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ
เอลเลียตเป็นชาวแอฟริกันอเมริกันมีประวัติเป็นผู้ต้องหาที่ได้รับการพ้นโทษก่อนกำหนดจากคดีใช้มีดแทงมารดาจนเสียชีวิตในเมืองบร็องซ์(Bronx)เมื่อปี 2002ในขณะที่เขามีอายุ 19 ปี เอลเลียตพ้นโทษออกจากคุกมาในปี 2019 และเป็นบุคคลติดทัณฑ์บนตลอดชีวิต
ข้อหาที่เอลเลียตได้รับจากการทำร้ายร่างกายหญิงชาวเอเชียวัย 65 ปีเมื่อวันจันทร์(29) ด้วยคดีทำร้ายร่างกายจากความเกลียดชังทางเชื้อชาติ พยายามทำร้ายในลักษณะความเกลียดชัง และรวมไปถึงคดีทำร้ายและพยายามทำร้าย ตำรวจนิวยอร์กแถลง และในเวลานี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเอลเลียตมีทนายความต่อสู้ให้กับตัวเขาแล้วหรือไม่
เอพีรายงานว่าเหยื่อที่ถูกทำร้ายคือ วิลมา คารี( Vilma Kari) วัย 65 ปีซึ่งอพยพมาจากฟิลิปปินส์ อ้างอิงจากบุตรสาวที่ได้เปิดเผยต่อหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส
ขณะเดียวกันเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำสหรัฐฯ โฮเซ มานูดเอล โรมูอัลเดซ (Jose Manuel Romualdez) แถลงยืนยันว่าผู้ถูกทำร้ายเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายฟิลิปปินส์
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ ทีโอโดร ล็อกซิน จูเนียร์ (Teodoro Locsin Jr.) ออกโรงโจมตีการทำร้ายหญิงเอเชียนอเมริกันผ่านทางทวิตเตอร์ โดยชี้ว่าความรุนแรงนี้จะส่งผลต่อนโยบายต่างประเทศฟิลิปปินส์ แต่ทว่าเขาไม่ได้แสดงให้เห็นไปถึงว่าจะส่งผลกระทบต่อนโยบายฟิลิปปินส์ต่อสหรัฐฯอย่างไร
ซึ่งในวันเกิดเหตุพบว่าคารีกำลังเดินไปโบสถ์ที่กลางเมืองแมนแฮตตัน และคนร้ายคือ เอลเลียตได้ตรงเข้ามาเตะที่ท้องของเธออย่างแรงและทำให้เธอล้มลงบนพื้น เข้าทำร้ายที่ใบหน้า 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย พร้อมกับตะโกนด้วยถ้อยคำหยาบคายที่แสดงความเกลียดชังต่อคนเอเชียอย่างเด่นชัด และบอกกับคารีว่า “คุณไม่สมควรอยู่ที่นี่” ก่อนที่จะเดินจากไป
เอพีรายงานว่า คารีได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้านได้ในวันอังคาร(23)หลังจากได้รับการรักษาด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส
เหตุเกิดในช่วงสายของเช้าวันจันทร์(22)ใกล้กับอพาร์ทเมนต์หรูหราและห่างจากไทม์สแควร์ไปแค่ 2 ช่วงถนน และพบว่ามีพนักงาน 2 คนที่อยู่ในอาคารที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากการบันทึกของกล้องทีวีวงจรปิดเห็นการทำร้ายโดยตลอดแต่ไม่ได้ออกไปช่วยหญิงเอเชียนอเมริกันแต่อย่างใด โดยที่เอลเลียตยังคงสามารถเดินจากไปอย่างปกติภายใต้การยืนดูเหตุการณ์ของคนเหล่านี้
ด้านนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก บิล เดอ บลาซิโอ ได้ออกมาประณามการทำร้ายวันจันทร์(29)ว่า “เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจโดยสิ้นเชิง และเป็นที่น่าสยดสยอง” เขายังชี้ต่อไปว่าการที่พยานในเหตุการณ์เห็นแต่ไม่ยอมลงมือช่วยถือเป็นสิ่งที่รับไม่ได้