xs
xsm
sm
md
lg

เปิดหวูดฉลองสนั่น!! เรือยักษ์หลุดเกยตื้น กลับลอยลำได้แล้ว เริ่มเปิดคลองสุเอซใหม่ คาด 3 วันครึ่ง จึงเคลียร์เรือสินค้าคั่งค้างได้หมด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เรือ “เอเวอร์ กิฟเวน” หนึ่งในเรือบรรทุกสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ลำใหญ่ที่สุดของโลก ขณะแล่นอยู่ในคลองสุเอซเมื่อวันจันทร์ (29 มี.ค.)   หลังหลุดออกจากจุดที่เกยตื้น และลอยน้ำได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
เรือบรรทุกตู้สินค้ายักษ์ที่เกยตื้นขวางคลองสุเอซมาเกือบสัปดาห์ สามารถหลุดออกมาลอยลำได้ใหม่แล้ว และเส้นทางการค้าสำคัญยิ่งของโลกสายนี้ ก็เปิดให้สัญจรกันได้อีกครั้งในวันจันทร์ (29 มี.ค.) โดยทางการอียิปต์คาดว่าอาจต้องใช้เวลา 3 วันครึ่ง ที่จะเคลียร์เรือสินค้าทุกลำที่จอดรออยู่ขณะนี้

บรรดาลูกเรือของเรือลากจูงพากันเปิดหวูดเรือดังสนั่นเป็นการเฉลิมฉลอง หลังจากเรือสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหญ่มหึมาลำนี้ สามารถหลุดออกมาจากที่เกยตื้นติดฝั่งคลองสุเอซอยู่ได้อย่างสมบูรณ์

สำหรับการสัญจรผ่านคลองทั้งสองทิศทางนั้น กำหนดเริ่มขึ้นมาใหม่ในเวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 24.00 น.เวลาเมืองไทย) ทั้งนี้ ตามคำแถลงของพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบท้องถิ่น

เรือ “เอเวอร์ กิฟเวน” ที่มีความยาวมากกว่าสนามฟุตบอล 4 สนามเรียงต่อกัน เกยตื้นขวางคลองสุเอซด้านใต้ในแนวทแยงท่ามกลางกระแสลมแรงตั้งแต่ช่วงเช้าวันอังคาร (23) ที่แล้ว ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานโลกสะดุดและเศรษฐกิจเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้ โอซามา ราบี ประธานสำนักงานบริหารจัดการคลองสุเอซ (เอสซีเอ) เปิดเผยเมื่อเช้าวันจันทร์ (29) ว่า ความพยายามในการกู้เรือลำนี้ด้วยการเรือลากจูงจำนวนหลายลำ ประสบความสำเร็จในการทำให้ตำแหน่งเรือปรับสู่ทิศทางที่ถูกต้องถึง 80% แล้ว โดยส่วนท้ายเรือขยับออกห่างจากฝั่ง 102 เมตร เทียบกับแค่ 4 เมตรก่อนหน้านี้

อีกหลายชั่วโมงหลังจากนั้น โดยเข้าใจกันว่า เมื่อถึงช่วงเวลาที่น้ำขึ้นรอบต่อไป เรือลากจูงก็สามารถดึงให้ เอเวอร์ กิฟเวน หลุดออกจากจุดที่ติดฝั่ง และกลับมาลอยเรือได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

เอสซีเอสำทับว่า จะอนุญาตให้ขนส่งผ่านคลองสุเอซได้อีกครั้ง ในทันทีที่เรือเอเวอร์ กิฟเวน ถูกเคลื่อนย้ายไปยังส่วนของคลองซึ่งมีขนาดกว้างขึ้น โดย ราบี เสริมว่า เอสซีเอจะใช้เวลาราว 3 วันครึ่ง เพื่อจะเคลียร์เรือสินค้ากว่า 300-400 ลำที่ ยังจอดรอใช้เส้นทางนี้อยู่

เจ้าหน้าที่ของโชอิ ไคเซน บริษัทญี่ปุ่นซึ่งเป็นเจ้าของเรือเอเวอร์ กิฟเวน เผยว่า เรือลากจูงจำนวน 11 ลำ ได้ช่วยกันลากเรือที่มีน้ำหนัก 200,000 ตันลำนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันจันทร์ และเสริมว่า แม้ส่วนหัวเรือได้รับความเสียหายตอนที่ติดอยู่ในสันดอนทราย แต่ไม่พบร่องรอยความเสียหายใหม่ๆ

ทั้งนี้ เรือลำนี้ชักธงปานามา ขณะที่เจ้าของเป็นบริษัทญี่ปุ่น ส่วนผู้ที่นำเรือไปดำเนินการขนส่งนั้นเป็นสายการเดินเรือทะเลของไต้หวัน

จอร์จ แซฟวัต โฆษกเอสซีเอ แถลงว่า ทีมกู้เรือทำงานแข่งกับเวลา โดยความพยายามหลักอยู่ที่การขุดทรายรอบเรือออก ซึ่งที่ผ่านมาขุดไปได้แล้ว 27,000 ลูกบาศก์เมตร ความลึก 18 เมตร

วิกฤตนี้บีบให้บริษัทต่างๆ ต้องเลือกระหว่างจอดรอเข้าคลองสุเอซ กับการเปลี่ยนเส้นทางไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮปแทน ซึ่งมีระยะทางเพิ่มขึ้น 9,000 กิโลเมตร อีกทั้งต้องใช้เวลานานขึ้นราว 1 สัปดาห์ สำหรับเส้นทางระหว่างเอเชีย-ยุโรป และหมายถึงมีต้นทุนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

อลิอันซ์ บริษัทประกันภัยชั้นนำของเยอรมนี เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (26) ว่า การที่คลองสุเอซไม่สามารถใช้การได้ทำให้การค้าโลกมีมูลค่าความสูญเสียถึงวันละ 6,000-10,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.2-0.4% ของปริมาณการค้าโลกในแต่ละสัปดาห์

ทั้งนี้ การขนส่งสินค้าของโลกราว 15% ต้องใช้เส้นทางคลองสุเอซ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้เงินตราต่างประเทศสำคัญของอียิปต์

เจ้าหน้าที่เผยว่า มีเรือจอดรอให้คลองสุเอซเปิดอีกครั้ง 369 ลำ ในจำนวนนี้มีทั้งเรือขนส่งสินค้า เรือขนก๊าซธรรมชาติเหลว เรือขนปิโตรเลียมเหลว เป็นต้น

หลายประเทศ ซึ่งรวมถึงอเมริกา เสนอให้ความช่วยเหลือในการกู้เรือ ล่าสุดคือ รัสเซียที่หยิบยื่นน้ำใจเมื่อวันอาทิตย์

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบในตลาดเอเชียลดลงทันที หลังข่าวการกู้เรือเอเวอร์ กิฟเวน มีความคืบหน้าชัดเจนเมื่อวันจันทร์

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, บีบีซี, เอพี)

ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่โดย แม็กซาร์ เทคโนโลยีส์ แสดงให้เห็นว่า เรือ เอเวอร์ กิฟเวน ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเรือลากจูงสิบกว่าลำ  ขณะสามารถหลุดจากการเกยตื้นได้บางส่วน เมื่อวันจันทร์ (29 มี.ค.)

ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่โดย แม็กซาร์ เทคโนโลยีส์ เมื่อวันเสาร์ (27 มี.ค.) แสดงให้เห็น ว่า เรือ เอเวอร์ กิฟเวน ที่ยังคงเกยตื้น โดยลำตัวเรือขวางปิดการสัญจรในคลองสุเอซ
กำลังโหลดความคิดเห็น