รอยเตอร์ - ความพยายามในการกู้เรือขนสินค้าขนาดยักษ์ที่เกยตื้นขวางคลองสุเอซ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่แล้ว ประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย โดยท้ายเรือเริ่มขยับเขยื้อนและหางเสือทำงานได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า เรือจะกลับมาลอยได้เมื่อไหร่ ขณะที่เรือสินค้ากว่า 300 ลำ จอดยาวรอใช้เส้นทางขนส่งสำคัญนี้
เรือเอเวอร์ กิฟเวน ความยาว 100 เมตร เกยตื้นขวางคลองสุเอซด้านใต้ในแนวทแยงท่ามกลางกระแสลมแรงตั้งแต่ช่วงเช้าวันอังคาร (23 มี.ค.) ปิดกั้นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือที่มีการใช้งานมากที่สุดของโลก
แหล่งข่าวสองคนของสำนักงานบริหารจัดการคลองสุเอซ (เอสซีเอ) เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (27 มี.ค.) ว่า เรือขุดลอกที่ช่วยกันขุดทรายรอบเรือ รวมทั้งเรือลากที่ดึงและดันให้เรือลอย ทำให้เรือเอเวอร์ กิฟเวน ขยับเขยื้อนเล็กน้อย
โอซามา ราบี ประธานเอสซีเอ ให้สัมภาษณ์สถานีทีวีท้องถิ่นว่า เริ่มมีน้ำขึ้นใต้ท้องเรือและเขาหวังว่า เรือจะสามารถขยับเขยื้อนและพ้นจากจุดที่ติดอยู่ในเวลาใดเวลาหนึ่ง
ทั้งนี้ การขนส่งทางน้ำราว 15% ของทั่วโลกต้องผ่านคลองสุเอซ และขณะนี้มีเรือกว่า 300 ลำรอใช้เส้นทางนี้อยู่
ราบียังหวังว่า จะไม่ต้องขนถ่ายคอนเทนเนอร์ 18,300 ตู้ลงเพื่อลดน้ำหนักเรือ ทว่า ทั้งกระแสคลื่นและลมแรงทำให้ภารกิจยากยิ่งขึ้น
เขาเสริมว่า ส่วนท้ายเรือเริ่มขยับเมื่อวันศุกร์ (26 มี.ค.) ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี กระทั่งช่วง 23.00 น. คืนนั้นซึ่งน้ำลดลงมากทำให้ต้องหยุดภารกิจกู้เรือไว้ก่อน
ทางด้าน สมิต ซัลเวจ บริษัทเนเธอร์แลนด์ที่เป็นผู้จัดการกู้เรือลำนี้ เผยว่า เรือขุดลอกหลายลำช่วยกันขุดทรายรอบๆ เรือเอเวอร์ กิฟเวน ออกไปราว 20,000 ตันเมื่อวันศุกร์ และคาดว่า เรืออาจหลุดจากสันดอนทรายที่ติดอยู่ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ หากน้ำขึ้นสูงและใช้เรือลากจูงขนาดใหญ่มาช่วยกันลาก
ปีเตอร์ เบอร์โดว์สกี ประธานบริหารบอสกาลิส บริษัทแม่ของสมิต ซัลเวจ เปิดเผยเมื่อคืนวันศุกร์ว่า เรือลากขนาดใหญ่ที่มีระวางน้ำหนักรวมกัน 400 ตัน มีกำหนดเดินทางถึงจุดเกยตื้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
วันเสาร์ มอสตาฟา มัดบูลี นายกรัฐมนตรีอียิปต์ ขอบคุณพันธมิตรต่างชาติที่ช่วยกันกู้เรือเอเวอร์ กิฟเวน
ความพยายามลากเรือเอเวอร์ กิฟเวน เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อบ่ายวันเสาร์และคาดว่า จะดำเนินการต่อในวันอาทิตย์แม้ทำให้ทรายรอบๆ เรือที่จำเป็นต้องขุดออกกลับเพิ่มปริมาณขึ้นก็ตาม
ตัวแทนขนส่งสินค้ารายหนึ่งเผยว่า เอสซีเอได้แจ้งตัวแทนบริษัทต่างๆ ให้เตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ในการนำเรือผ่านคลองสุเอซอีกครั้ง ขณะที่แหล่งข่าวอีกคนเผยว่า เอสซีเอแจ้งแผนคร่าวๆ ในการปล่อยเรือเข้าสู่คลองอย่างรวดเร็ว 133 ลำ หลังจากเรือเอเวอร์ กิฟเวนเป็นอิสระอีกครั้ง
อัตราค่าขนส่งสำหรับเรือบรรทุกน้ำมันกลั่นแล้วเพิ่มขึ้นสองเท่าหลังเรือลำนี้เกยตื้น การที่คลองสุเอซใช้การไม่ได้ยังทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกหยุดชะงัก บริษัทต่างๆ ที่ต้องรับมือการระบาดของโควิด-19 อยู่แล้วต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากความล่าช้าในการขนส่งสินค้า
หากยังไม่สามารถใช้คลองสุเอซได้ ผู้ขนส่งสินค้าอาจเปลี่ยนไปใช้เส้นทางแหลมกู๊ดโฮปแทน ซึ่งต้องใช้เวลานานขึ้นราว 2 สัปดาห์และต้นทุนน้ำมันเพิ่ม ทำให้ขณะนี้ยังไม่มีเรือลำใดตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง
สำหรับเรือที่จอดรออยู่ 321 ลำนั้น มีทั้งเรือขนส่งสินค้า ก๊าซธรรมชาติเหลว ก๊าซปิโตรเลียมเหลว เป็นต้น
ที่ผ่านมา มีการนำเรือลาก 14 ลำไปช่วยกู้เรือเอเวอร์ กิฟเวน แม้บอสกาลิสและสมิต ซัลเวจเตือนว่า การใช้แรงมากเกินไปอาจทำให้เรือลำนี้เสียหายก็ตาม
เบอร์โดว์สกี สำทับว่า การใช้เครนบนฝั่งช่วยขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ออกช่วยลดน้ำหนักของเรือได้ ทว่า ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า กระบวนการนี้ยุ่งยากและใช้เวลานาน