รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน และอิหร่าน ลงนามข้อตกลงความร่วมมืออายุ 25 ปี ระหว่างสองพันธมิตรในพิธีที่ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ทางการในวันเสาร์นี้ (27)
“ความสัมพันธ์ของเรากับอิหร่านจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบัน แต่จะมั่นคงถาวรและเป็นยุทธศาสตร์” หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าว สำนักข่าวในอิหร่าน รายงาน
“อิหร่านตัดสินใจอย่างอิสระในเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ และไม่เหมือนกับบางประเทศที่เปลี่ยนแปลงจุดยืนจาการคุยโทรศัพท์แค่ครั้งเดียว”
หวังได้พบกับประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ก่อนการลงนามข้อตกลงซึ่งคาดว่าจะรวมถึงการลงทุนจากจีนในภาคส่วนสำคัญต่างๆ เช่น พลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน
ข้อตกลงนี้เป็นแบบอย่างของ “การทูตที่ประสบความสำเร็จ” ฮีซาเมดดิน อชีนา ที่ปรึกษาของโรฮานี กล่าว “ความเข้มแข็งของประเทศหนึ่งมาจากความสามารถในการเข้าร่วมกับกลุ่มแนวร่วมต่างๆ ไม่ใช่การแยกตัวสันโดษ”
ซาอีด คาทิบซาเดห์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวว่า ข้อตกลงนี้เป็น “โรดแมป” สำหรับความร่วมมือทางการค้า เศรษฐกิจ และการขนส่ง โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับภาคเอกชนของสองฝ่าย
เมื่อปี 2006 จีน หนึ่งในหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดและพันธมิตรเก่าแก่ของอิหร่าน ตกลงที่จะเพิ่มการค้าสองฝ่ายอีกกว่า 100 เท่าเป็น 6 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาสิบปี
เมื่อวันพฤหัสบดี (25) กระทรวงพาณิชย์ของจีน ระบุว่า ปักกิ่งจะพยายามปกป้องข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ของอิหร่านและปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมในความสัมพันธ์จีน-อิหร่าน
สหรัฐฯ และมหาอำนาจตะวันตกรายอื่นๆ ในข้อตกลงนิวเคลียร์เห็นแย้งกับอิหร่านในเรื่องที่ว่าฝ่ายไหนควรกลับเข้าสู่ข้อตกลงนี้ก่อน แต่ฝ่ายที่ทิ้งข้อตกลงนี้ไปก่อนเมื่อปี 2018 คืออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ
