อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ แสดงความกังวลเกี่ยวกับเหตุกาณ์ความรุนแรงที่มีมากขึ้นกับคนเอเชียและคนเชื้อสายเอเชียทั่วโลกระหว่างวิกฤตโคระบาดใหญ่โควิด-19 ความเคลื่อนไหวมีขึ้นไม่กี่วันหลังจากประชาชนชุมนุมกันในแอตแลนตา และอีกหลายเมืองทั่วสหรัฐฯ แสดงพลังสนับสนุนชุมชนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย หลังเกิดเหตุกราดยิงที่สปาท้องถิ่น 3 แห่งในเมืองดังกล่าว
แม้ถ้อยแถลงของสหประชาชาติไม่ได้พาดพิงประเทศใด แต่มันถูกเผยแพร่ออกมาหลังเหตุกราดยิงในแอตแลนตา สหรัฐฯ เมื่อสัปดาหที่แล้ว คร่าชีวิต 8 ศพ ในนั้น 6 รายเป็นสตรีอเมริกันเชื้อสายเอเชีย
เหตุกราดยิงดังกล่าวโหมกระพือความกังวลในหมู่ชุมชนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ซึ่งรายงานเผชิญกับอาชญากรรมจากความเกลียดชังเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ครั้งที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น เริ่มพาดพิงโควิด-19 ว่าเป็น “ไวรัสจีน”
“โลกได้เห็นเหตุโจมตีเสียชีวิตอันน่าสยดสยองต่างๆ นานา การล่วงละเมิดทางวาจาและทางร่างกาย เหตุรังแกในโรงเรียน การเลือกปฏิบัติตามสถานที่ทำงาน ยุยงให้เกิดความเกลียดชังในสื่อมวลชนและในแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ และการใช้ถ้อยคำปลุกปั่นความไม่สงบโดยพวกคนที่อยู่ในอำนาจโดยตำแหน่ง” โฆษกของสหประชาชาติระบุ “ในบางประเทศ ผู้หญิงชาวเอเชียตกเป็นเป้าหมายการโจมตีอย่างเจาะจง”
ระหว่างเดินทางเยือนแอตแลนตาเมื่อวันศุกร์ (19 มี.ค.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ แสดงความเศร้าใจเหตุความรุนแรงต่อต้านชาวเอเชียที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และร้องขออเมริกันชนยืนหยัดต่อสู้กับความเกลียดชังร่วมกัน
ไบเดน ประณามการเหยียดเชื้อชาติและลัทธิคลั่งผิวขาวเป็นใหญ่ ว่า เปรียบเสมือน “ยาพิษร้ายแรง” ที่บ่อนทำลายสังคมอเมริกันมาอย่างยาวนาน พร้อมประกาศจะแก้ไขกฎหมายบางฉบับที่เอื้อให้เกิดการเลือกปฏิบัติ
ผู้นำสายเดโมแครต วัย 78 ปี ยอมรับว่า กระแสเหยียดผิว, เกลียดกลัวคนต่างชาติ (xenophobia) และชาติภูมินิยม (nativism) เป็นปัญหาเรื้อรังของสหรัฐอเมริกา
ฝูงชนต่างวัยหลากหลายเชื้อชาติ ชาติพันธุ์และภูมิหลัง ชุมนุมใกล้อาคารรัฐสภาของจอร์เจีย รวมถึงอีกหลายเมืองทั่วอเมริกาเมื่อวันเสาร์ (20 มี.ค.) เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้เหยื่อที่เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงร้านนวดและสปา และเพื่อประณามลัทธิเหยียดเชื้อชาติ การเกลียดกลัวคนต่างชาติ และเกลียดชังผู้หญิง
โรเบิร์ต แอรอน ลอง ลงมือกราดยิงสปา 2 แห่งในเมืองแอตแลนตา และร้านนวดอีกแห่งในเทศมณฑลเชอโรกี จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน ซึ่ง 6 คนเป็นผู้หญิงเอเชีย เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ทำให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสหรัฐฯ ถูกสังคมกดดันให้ต้องสอบสวนคดีนี้ในฐานะที่เป็นอาชญากรรมจากความเกลียดชัง (hate crime)
เจ้าหน้าที่สอบสวนระบุว่า ลองสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุ เขายืนยันว่าไม่ได้มีแรงจูงใจเรื่องเชื้อชาติ แต่อ้างว่า ตนเองติดเซ็กซ์ และที่ลงมือทำไปเพราะต้องการทำลายสิ่งที่ยั่วยวนใจ
ตำรวจเผยว่า ยังคงสอบสวนหาแรงจูงใจและยังไม่ได้ตัดประเด็นอาชญากรรมจากความเกลียดชัง แต่ทาง โรเบิร์ต เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแห่งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าประเด็นทางเชื้อชาติไม่น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งของการก่ออาชญากรรมครั้งนี้
แฟรงค์ เรย์โนลด์ส นายอำเภอเชโรกี เคาน์ตี ระบุในวันจันทร์ (22 มี.ค.) ว่าสำนักงานของเขายังคงอยู่ระหว่างการสืบสวน หลังตั้งข้อหาฆาตกรรม ลอง ชายผิวขาววัย 21 ปี
ในถ้อยแถลงที่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร เรย์โนลด์ส บอกว่าแม้ทั่วทั้งประเทศและทั่วโลกต่างให้ความสนใจคดีนี้ แต่หน่วยงานของเขาไม่ขอแสดงความคิดเเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสืบสวน