บราซิลพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายใหม่ ทุบสถิติสูงสุุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด 2 วันติดต่อกันในวันพุธ (3 มี.ค.) หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1,910 คน ในขณะที่มีคำเตือนว่าระบบสาธารณสุขในหลายรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะล่มสลาย ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
เคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ผลักระบบสาธารณสุขถึงขีดจำกัดในหลายพื้นที่ ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดนั้น ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมของบราซิลเพิ่มเป็น 259,271 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ เท่านั้น
“เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น เรากำลังเห็นสถานการณ์เสื่อมทรามลงทั่วทั้งประเทศ” สถาบันสาธารณสุขฟิโอครูซ (Fiocruz) กล่าว ก่อนเผยแพร่ตัวเลขล่าสุด “สถานการณ์กำลังน่ากังวล”
ก่อนหน้านี้ สถิติพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายใหม่สูงสุดรอบ 24 ชั่วโมงในบราซิล เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร (2 มี.ค.) ด้วยจำนวน 1,641 ราย
ประเทศที่มีประชากร 212 ล้านคนแห่งนี้ ต้องเผชิญกับสัปดาห์ที่มีผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดใหญ่มากที่สุด เฉลี่ยแล้ว 1,331 คนต่อวัน หลังประสบปัญหาในความพยายามควบคุมการพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มาตั้งแต่ช่วงต้น
ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ต่อกรณีที่ดูเบาความรุนแรงของโรคระบาดใหญ่มาตลอด เพิกเฉยคำแนะนำของบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่เสนอให้ควบคุมโควิด-19 ด้วยมาตรการล็อกดาวน์และสวมหน้ากาก นอกจากนี้แล้วรัฐบาลของเขายังถูกตำหนิในวงกว้างเกี่ยวกับการลงมืออย่างล่าช้าในการฉีดวัคซีนให้ประชาชน
เวลานี้สถานการณ์ถูกซ้ำเติมจากเคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น อันมีบ่อเกิดจากวันหยุดยาวและเทศกาลคาร์นิวัล ซึ่งประชาชนจำนวนมากเพิกเฉยคำสั่งยกเลิกกิจกรรมอย่างเป็นทางการต่างๆ หันมารวมตัวกันเป็นหมู่คณะและจัดปาร์ตี้อย่างลับๆ
พวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การอุบัติของตัวกลายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อ P1 ในเมืองมาเนาส์ ก็เป็นอีกหนึ่งต้นตอของจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น โดยเวลาตัวกลายพันธุ์ดังกล่าวพบใน 17 รัฐจากทั้งหมด 27 รัฐของบราซิล และตรวจพบในชาติอื่นๆ อีกหลายสิบประเทศ
ผลการศึกษาพบว่ามันแพร่กระจายเชื้อง่ายกว่าไวรัสตัวดั้งเดิมหลายเท่า และสามารถทำให้คนที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้ว กลับมาติดเชื้อได้อีก
สถาบันฟิโอครูซระบุว่า แผนกไอซียูใน 19 รัฐของบราซิล เวลานี้แบกรับคนไข้เต็มความจุไปแล้วมากกวา 80% นั่นหมายความว่ารัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก หากต้องการส่งตัวคนไข้ไปยังรัฐอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กัน
ขณะเดียวกันโครงการฉีดวัคซีนของประเทศซึ่งเริ่มต้นค่อนข้างช้า ในช่วงกลางเดือนมกราคม ก็กำลังประสบกับปัญหาขาดแคลน
จนถึงตอนนี้บราซิลใช้วัคซีนโคโรนาแวคที่พัฒนาโดยจีน และวัคซีนของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดกับแอสตราเซเนกา ซึ่งทั้งสองต้องใช้ในปริมาณ 2 โดส
บราซิลฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชาชนไปแล้ว 7.1 ล้านคน และครบ 2 โดส 2.1 ล้านคน แต่ยังคงห่างไกลกับคำสัญญาของ เอดุอาร์โด ปาซูเอลโล รัฐมนตรีสาธารณสุข ซึ่งเคยประกาศว่าจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกคนภายในสิ้นปี
“เรายังไม่พร้อม” อิสราเบลลา บัลลาไล จากสมาคมโรคภูมิแพ้และวิทยาภูมิคุ้มกันแห่งบราซิลกล่าว “นี่คือการคาดเดา เรารู้ว่ามีตัวกลายพันธุ์ใหม่และควรต้องล็อกดาวน์” เธอบอกกับเอเอฟพี
ด้วยที่ไม่มีแนวทางตอบสนองระดับชาติจากรัฐบาลกลาง รัฐและเมืองต่างๆ ในบราซิลจึงมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่ไม่ปะติดปะต่อกัน ในนั้นรวมถึงรัฐเซาเปาลู ซึ่งมีประชากรราวๆ 46 ล้านคน
“เรากำลังเผชิญกับ 2 สัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปีก่อน” ชูอา โดเรีย ผู้ว่าการรัฐระบุ “เซาเปาลูและบราซิล กำลังอยู่บนขอบเหวของการพังครืนของระบบสาธารณสุข”
โดเรีย ซึ่งคาดหมายว่าจะลงท้าชิง โบลโซนารู ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 ยังได้ตำหนิคู่ปรับของเขาอย่างรุนแรง “มันคือความผิดพลาดของคุณ มันเป็นเพราะการปฏิเสธของคุณ” เขาพูดถึงโบลโซนาโรระหว่างแถลงข่าว “มีคนตายมากกว่า 1,000 คนในแต่ละวันในบราซิล มันราวกับเครื่องบิน 5 ลำตกใน 1 วัน ชาวบราซิลจำนวนมากต้องมาตาย เพราะว่าคุณไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ”
(ที่มา : เอเอฟพี)