xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวดี! พบวัคซีนโควิดโดสเดียว “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” มีประสิทธิภาพสูง ใกล้อนุมัติใช้ฉุกเฉิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วัคซีนโควิด-19 โดสเดียวของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ดูมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพระหว่างการทดลอง จากข้อมูลของสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) ในวันพุธ (24 ก.พ.) เปิดทางสำหรับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้

ในเอกสารที่เผยแพร่ออกมา ก่อนหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระ ซึ่งมีหน้าที่ให้คำปรึกษาหน่วยงานแห่งนี้ด้านการอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉิน จะประชุมกันในวันศุกร์ (26 ก.พ.) ทางสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพ 66% สำหรับปกป้องการติดเชื้อโควิด-19 อาการปานกลางไปจนถึงรุนแรง ในอาสาสมัคร 44,000 คนทั่วโลก

ข้อมูลใหม่ที่ทางจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน มอบให้เอฟดีเอ ยังเผยให้เห็นด้วยว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพ 64% ในการหยุดเคสเคสติดเชื้อโควิด-19 อาการปานกลางไปจนถึงรุนแรง หลังการฉีดวัคซีน 28 วัน ในอาสาสมัครหลายพันคนในแอฟริกาใต้ ดินแดนที่มีคสามกังวลเกี่ยวกับตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งกำลังแพร่ระบาดทั่วประเทศ

ในภาพรวม วัคซีนมีประสิทธิภาพ 100% สำหรับหยุดการติดเชื้ออาการรุนแรงถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 28 วันหลังได้รับวัคซีน แต่ถ้าอยู่ในระยะ 14 วัน ประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลงมาอยู่ที่ 85% และไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในหมู่อาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนตัวนี้

จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ระบุข้อมูลจากการทดลองยังบ่งชี้ด้วยว่า วัคซีนของทางบริษัทช่วยลดการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่วัคซีนโควิด-19 อาจสามารถช่วยหยุดการแพร่เชื้อได้อย่างแท้จริง

แม้เอฟดีเอไม่มีข้อผูกมัดที่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ แต่ที่ผ่านมา พวกเขาอนุมัติวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา หนึ่งวันหลังจากคณะกรรมการที่ปรึกษาประชุมกัน

สหรัฐฯ ชาติที่โควิด-19 คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่าครึ่งล้านราย พยายามดิ้นรนยกระดับโครงการวัคซีน เนื่องจากตอนนี้ประสบปัญหาอุปทานวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา มีอย่างจำกัด

เวลานี้ทั่วโลก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วมากกว่า 112 ล้านราย และเสียชีวิตแล้วกว่า 2.5 ล้านราย ขณะที่รัฐบาลชาติต่างๆกำลังแย่งชิงกันเพื่อเข้าถึงวัคซีนตัวใดก็ตามที่มีประสิทธิภาพต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ คาดหมายว่า จะพร้อมส่งมอบวัคซีน 4 ล้านโดส ทันทีที่ได้รับไฟเขียวจากเอฟดีเอ และจะสามารถส่งมอบวัคซีน 20 ล้านโดสในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม ทั้งนี้ ทางบริษัทสัญญาว่าจะส่งมอบวัคซีนแก่สหรัฐฯ 100 ล้านโดส ในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน

วัคซีนของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เป็นวัคซีนแบบโดสเดียว และสามารถจัดเก็บไว้ในตูุ้เย็นธรรมดาทั่วไป ต่างจากวัคซีนของไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา ซึ่งต้องใช้ในปริมาณ 2 โดส และต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิเย็นสุดขั้ว

ในเอกสารที่ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ยื่นต่อเอฟดีเอ ระบุผลวิเคราะห์เบื้องต้นจากการทดลอง พบเคสผู้ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ 26 เคสในกลุ่มที่ใช้ยาหลอก ขณะที่กลุ่มอาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนจริง พบเคสติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ 2 ราย หรือมีอัตราประสิทธิภาพอยู่ที่ 88%

แม้ว่าการต่อสู้กับการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการไม่ใช่เป้าหมายหลักของการทดลอง ซึ่งศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนในการหยุดยั้งการติดเชื้อโควิด-19 อาการปานกลางไปจนถึงรุนแรง แต่ผลการทดลองที่พบว่ามันลดเคสติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการเช่นกัน นั่นหมายความว่า วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน สามารถตัดวงจรการแพร่เชื้อได้อีกด้วย

“ข้อมูลนี้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ว่าวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการแพร่เชื้อโดยไม่แสดงอาการ" อาเมช อาดัลจาผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อและนักวิชาการอาวุโสจากศูนย์ความมั่นคงทางสุขภาพ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ อย่างไรก็ตามบอกว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบางส่วนอาจรอดูข้อมูลที่หนักแน่นกว่านี้ก่อนปักใจเชื่อ

ประสิทธิภาพวัคซีนโดสเดียวของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน คละกันแตกต่างกันออกไป โดยในบราซิล ซึ่งมีการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เช่นเดียวกับในแอฟริกาใต้ วัคซีนมีประสิทธิภาพ 66% หลังฉีดวัคซีนไปแล้ว 14 วันและเพิ่มเป็น 68% หลังผ่าน 28 วัน แต่ในสหรัฐฯ ประสิทธิภาพ 14 วันหลังฉีดอยู่ที่ 74% แต่ลดลงมาเหลือ 72% ในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา

รวมแล้วมีอาสาสมัครผู้เข้ารับวัคซีนเพียง 2 คน ที่มีอาการติดเชื้อโควิด-19 รุนแรงถึงขั้นจำเป็นต้องเข้าแทรกแซงทางการแพทย์ หลังได้รับวัคซีน 14 วัน และลดลงเป็นศูนย์หลังผ่าน 28 วัน

จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ระบุพวกเขาเห็นภูมิคุ้มกันจากวัคซีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึงอย่างน้อย 28 วันหลังจากฉีด พร้อมคาดหมายว่า ประสิทธิภาพป้องกันของวัคซีนจะทรงตัวหรือแม้กระทั่งดีขึ้นเมื่อเวลาล่วงเลยไป

มีอาสาสมัคร 3 คนที่ได้รับวัคซีน มีอาการข้างเคียงรุนแรงระหว่างทดลอง และมีความเป็นไปได้ว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่ทางเอฟดีเอระบุว่า จากการวิเคราะห์ของพวกเขามันไม่ได้ก่อความกังวลด้านความปลอดภัยเป็นพิเศษใดๆ ที่จะขัดขวางการอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉิน

เอฟดีเอ บอกว่า อาการทั่วไปที่พบบ่อยที่สุดคือรู้สึกเจ็บปวดบริเวณฉีด 48.6% ปวดศีรษะ 39% เหยื่อยล้า 38.2% และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ 33.2% นอกจากนี้ผลข้างเคียงอื่นๆ ก็มีอาการไข้ 9% และไข้สูง 0.2%

(ที่มา: รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น