เจ้าชายแฮร์รีแห่งอังกฤษทรงให้สัมภาษณ์เปิดใจกับพิธีกรผิวสีชื่อดัง ‘โอปราห์ วินฟรีย์’ โดยยอมรับว่าที่ตัดสินใจพาพระชายา ‘เมแกน’ กับโอรสหนีมาประทับที่สหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้วเพราะสุดทนกับพฤติกรรมสื่อเมืองผู้ดี และกลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยพระมารดา ‘เจ้าหญิงไดอาน่า’ ที่ต้องสิ้นพระชนม์ก่อนวัยอันควรเพราะถูกปาปารัซซี่ตามราวี
สถานีโทรทัศน์ CBS ได้เผยแพร่ตัวอย่างคลิปบทสัมภาษณ์สั้นๆ ของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ซึ่งมีกำหนดออนแอร์ตัวเต็มในวันที่ 7 มี.ค. และถือเป็นการให้สัมภาษณ์ทางทีวีครั้งแรกของทั้งสองพระองค์นับตั้งแต่ทรงย้ายมาตั้งรกรากอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปีที่ผ่านมา
“สิ่งที่ผมกังวลมากที่สุดก็คือกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย” เจ้าชายแฮร์รีตรัส โดยทรงหมายถึงเจ้าหญิงไดอาน่าที่ทรงหย่าขาดจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในปี 1996 แต่ยังถูกสื่ออังกฤษคุกคามชีวิตส่วนพระองค์ จนสุดท้ายต้องไปประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์สิ้นพระชนม์ที่กรุงปารีสขณะมีพระชนมายุเพียง 36 พรรษา
ดยุคแห่งซัสเซกซ์ทรงหันไปจับมือ เมแกน วัย 39 ปีขณะที่ให้สัมภาษณ์ โดยทั้งคู่เพิ่งประกาศในเดือนนี้ว่ากำลังจะมีทายาทคนที่ 2
“ผมรู้สึกโล่งใจ และมีความสุขที่ได้นั่งคุยกับคุณโดยมีภรรยาของผมนั่งอยู่ด้วยข้างๆ... เพราะผมนึกไม่ออกเลยว่า เธอ (เจ้าหญิงไดอาน่า) ต้องฝ่าฟันเรื่องราวเหล่านี้เพียงลำพังได้อย่างไรเมื่อหลายปีก่อน”
“มันเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับเรา 2 คน แต่อย่างน้อยเราก็ยังมีกันและกัน”
ด้าน วินฟรีย์ ซึ่งเป็นพิธีกรกล่าวว่า การพูดคุยเปิดใจครั้งนี้ “ไม่มีประเด็นไหนต้องห้าม” ทั้งสิ้น แต่ถึงกระนั้นก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เธอถึงกับออกปากว่า “คุณพูดในสิ่งที่น่าตกตะลึงมากทีเดียวนะ” และบอกด้วยว่าเจ้าชายแฮรีและ เมแกน ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ “ยากจะมีชีวิตรอดได้”
ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ทรงโอดครวญว่าสื่อแท็บลอยด์อังกฤษจงใจ “คุกคาม” และ “เหยียดเชื้อชาติ” เมแกน ซึ่งมีบิดาเป็นชาวอเมริกันผิวขาว และมารดาเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน
เมื่อต้นเดือนนี้ สำนักพระราชวังบักกิงแฮมได้ประกาศยืนยันว่าทั้งคู่จะไม่หวนกลับไปปฏิบัติพระกรณียกิจต่างๆ เยี่ยงพระบรมวงศานุวงศ์อีกต่อไป
(ที่มา : รอยเตอร์)